Start with the basic

Tweet

หลังจากที่ได้รู้จักลักษณะของฟิวเจอร์สและออปชั่น รวมถึงเล็งเห็นจุดเด่นและความน่าสนใจของสินค้าใน TFEX กันไปแล้ว ประเด็นต่อไปที่จะนำเสนอ คือ ผู้ที่ลงทุนใน TFEX มีมุมมองในการสร้างผลตอบแทนหรือการใช้ประโยชน์จากการซื้อขายฟิวเจอร์สและออปชั่นใน TFEX อย่างไรบ้าง ซึ่งสามารถแบ่งเป็นหัวข้อใหญ่ ๆ ได้ 5 หัวข้อ ได้แก่

ทำกำไรจากทิศทางของราคา

ผู้ลงทุนทั่วไปที่เข้ามาซื้อขายใน TFEX มักมีมุมมองที่ต้องการทำกำไรจากทิศทางของราคา ซึ่งถือว่ามีสัดส่วนมากที่สุด เนื่องจากเป็นแนวความคิดพื้นฐานในการทำกำไร โดยผู้ลงทุนจะเข้ามาซื้อขายตามการคาดการณ์เกี่ยวกับทิศทางของราคาว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือปรับตัวลดลง

เมื่อราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้ก็จะล้างสถานะเพื่อทำกำไร ทั้งนี้ การทำกำไรใน TFEX จากการคาดการณ์ทิศทางของราคา โดยมากนิยมใช้แนวทางการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อขาย อย่างไรก็ดี การลงทุนใน TFEX นั้นมี Leverage ทำให้การเปลี่ยนแปลงของราคาส่งผลต่อกำไรหรือขาดทุนเป็นจำนวนมาก สิ่งสำคัญ คือ ผู้ลงทุนต้องหาจังหวะในการซื้อขายที่ดี ซึ่งการวิเคราะห์ทางเทคนิคจะช่วยตอบโจทย์ผู้ลงทุนได้ในส่วนนี้

ทำกำไรจากส่วนต่างของราคา

เนื่องจากฟิวเจอร์สที่อ้างอิงสินค้าแตกต่างกัน หรือฟิวเจอร์สที่อ้างอิงสินค้าเดียวกันแต่มีระยะเวลาของสัญญาที่ไม่เท่ากัน จะมีราคาที่แตกต่างกัน และส่วนต่างของราคาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นค่าคงที่ แต่ส่วนต่างของราคาจะมีการปรับตัวที่กว้างขึ้นหรือแคบลง ซึ่งการที่ส่วนต่างของราคามีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะนี้ จึงเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถทำ กำไรจากการคาดการณ์ทิศทางของส่วนต่างราคา ได้

การทำกำไรจากการคาดการณ์ทิศทางส่วนต่างของราคา มักมีความเสี่ยงที่น้อยกว่าการทำกำไรจากการคาดการณ์ทิศทางของราคาสินค้าในหัวข้อแรก เนื่องจากผู้ที่สนใจทำกำไรด้วยมุมมองนี้ จะมีการสร้างสถานะ Long ในฟิวเจอร์สตัวหนึ่งและสร้างสถานะ Short ในฟิวเจอร์สอีกตัวด้วย ดังนั้น เมื่อราคามีการเปลี่ยนแปลงจะมีกำไรจากฟิวเจอร์สตัวหนึ่งและขาดทุนจากฟิวเจอร์สอีกตัว ซึ่งถ้าเราสามารถคาดการณ์ทิศทางของส่วนต่างราคาได้ถูกต้อง ผลกำไรจากฟิวเจอร์สตัวหนึ่งจะมากกว่าผลขาดทุนจากฟิวเจอร์สอีกตัว ทำให้ผลตอบแทนของพอร์ตโดยรวมเป็นกำไร

ประกันความเสี่ยง

สำหรับผู้ที่มีสถานะในสินค้าอ้างอิง การปรับตัวขึ้นหรือลงของราคาสินค้าอ้างอิงจะทำให้เกิดผลกำไรขาดทุนกับผู้ที่มีสถานะในสินค้าอ้างอิงนั้น ๆ ในกรณีนี้หากต้องการประกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าอ้างอิง สามารถทำได้โดยซื้อหรือขายฟิวเจอร์สในสถานะที่ตรงข้ามกับสถานะในสินค้าอ้างอิงที่ตนเองมีอยู่ หรือสร้างสถานะสัญญาในฝั่งที่ตนเองต้องการทำธุรกรรมในอนาคต ผลที่ได้รับจากการประกันความเสี่ยง คือ ถ้าราคาของสินค้าอ้างอิงเกิดการเคลื่อนไหว ทำให้เกิดผลขาดทุนจากการมีสถานะในสินค้าอ้างอิง ผู้ประกันความเสี่ยงจะได้ผลกำไรจากการสร้างสถานะในฟิวเจอร์สมาทดแทน แต่ถ้าราคาสินค้าอ้างอิงเคลื่อนไหวทำให้เกิดผลกำไรจากการมีสถานะในสินค้าอ้างอิง ผู้ประกันความเสี่ยงก็จะมีผลขาดทุนจากการสร้างสถานะในฟิวเจอร์สมาหักล้าง

นอกจากการใช้ฟิวเจอร์สช่วยบริหารความเสี่ยงจากการมีสถานะในสินค้าอ้างอิงแล้ว ผู้ลงทุนยังสามารถประกันความเสี่ยงได้ด้วยการซื้อ Options ซึ่งการประกันความเสี่ยงด้วยการซื้อ Options จะมีข้อดี คือ เป็นการปิดความเสี่ยงในฝั่งขาดทุน แต่ยังเปิดโอกาสได้รับผลตอบแทนในฝั่งกำไร แต่สิ่งที่ผู้ประกันความเสี่ยงอาจจะต้องแลกกับการได้ข้อดีของการประกันความเสี่ยงด้วย Options คือ ค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนที่อาจจะสูงกว่าการประกันความเสี่ยงด้วยฟิวเจอร์ส

ทำกำไรแบบปราศจากความเสี่ยง

โอกาสในการทำกำไรแบบปราศจากความเสี่ยง (Arbitrage) จะเกิดขึ้นได้จากการที่สินค้าประเภทเดียวกันแต่มีการซื้อขายอยู่ในตลาดหรือสถานที่แตกต่างกัน แล้วบางช่วงเวลาราคาของสินค้าที่ซื้อขายต่างสถานที่กันนั้นมีราคาที่แตกต่างกันด้วย กรณีนี้จึงเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถทำกำไรแบบปราศจากความเสี่ยงได้

การทำกำไรแบบปราศจากความเสี่ยงทำได้โดยซื้อหรือทำสัญญาซื้อสินค้าในตลาดที่ราคาสินค้าถูกกว่า และขายหรือทำสัญญาขายสินค้าประเภทเดียวกันในตลาดที่ราคาสินค้าแพงกว่า ทำให้ผู้ลงทุนมีสถานะทั้งฝั่งซื้อและฝั่งขายสินค้าประเภทเดียวกันพร้อมกันในเวลาเดียวกันโดยที่ราคาขายสูงกว่าราคาที่ซื้อ หลังจากนั้นรอให้ราคาสินค้าชนิดเดียวกันในทั้งสองตลาดปรับตัวมาใกล้เคียงกันอีกครั้ง ผู้ลงทุนก็สามารถล้างสถานะเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคาที่เกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม โอกาสการทำกำไรแบบปราศจากความเสี่ยงนั้นอาจเกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก ซึ่งโอกาสในการทำกำไรด้วยวิธีนี้มักจะเกิดขึ้นในสภาพตลาดที่มีเหตุการณ์ไม่ปกติ หรือราคามีความผันผวนอย่างมาก

ต้องการเพิ่มพลังในการทำกำไรของเงินลงทุน (Leverage)

กลไกการซื้อขายใน TFEX ทำให้เงินลงทุนสามารถเพิ่มอัตราเร่งในการสร้างผลตอบแทนได้ หรือที่เรียกว่ามี Leverage กล่าวคือ ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายสินค้าอ้างอิงได้โดยใช้เงินลงทุนที่น้อยกว่ามูลค่าทั้งหมดของสินค้า ขณะที่ผลตอบแทนจะคำนวณจากมูลค่าเต็มจำนวน ดังนั้น เมื่อพิจารณาอัตราผลตอบแทนที่ได้รับเทียบกับเงินลงทุนตั้งต้นแล้ว จะพบว่าฟิวเจอร์สและออปชั่นทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเร็วและสูงกว่าการลงทุนในสินค้าอ้างอิงโดยตรงมาก ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าผู้ลงทุนนิยมเข้ามาซื้อขายใน TFEX เพื่อต้องการใช้ Leverage ของสินค้า คือ การเติบโตอย่างรวดเร็วของปริมาณธุรกรรม Block Trade ในฟิวเจอร์สที่อ้างอิงหุ้นรายตัว (Stock Futures)