TFEX
5 Min Read

แนะนำกลยุทธ์ ตอนที่ 2 สร้างกระแสเงินสด (Cash Flow) ด้วย SET50 Index Futures

by TFEX
แนะนำกลยุทธ์ ตอนที่ 2 สร้างกระแสเงินสด (Cash Flow) ด้วย SET50 Index Futures

          มุมมองในการสร้างกระแสเงินสดจากการซื้อขายสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ดัชนี ทองคำ อัตราแลกเปลี่ยน ฯลฯ เป็นที่นิยมมานานพอสมควร ซึ่ง SET50 Index Futures ที่มีการซื้อขายใน TFEX เป็นสินค้าหนึ่งที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และสามารถนำมาสร้างกระแสเงินสดได้เป็นอย่างดี

          แนวคิดการสร้างกระแสเงินสด เกิดขึ้นจากข้อสังเกตเริ่มต้นที่เห็นว่า ราคาสินค้ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นและลดลงอยู่ตลอดเวลา (มีความผันผวน ไม่อยู่นิ่ง) ซึ่งถ้าเราสามารถจับคู่ต้นทุนซื้อและราคาขายสินค้าได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว ส่วนต่างที่เกิดขึ้นจากราคาขายลบด้วยราคาซื้อ จะเป็นผลตอบแทนที่ถูกมองอยู่ในรูปของกระแสเงินสด (คำสั่งที่ซื้อขายจับคู่กันไม่จำเป็นต้องเป็นคำสั่งซื้อขายที่เรียงลำดับแบบติดกันก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น ทยอยซื้อสินค้าเมื่อราคามีการปรับตัวลดลงทุกๆ 1 บาท และเมื่อราคามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 0.5 บาท จะขายสินค้าที่มีต้นทุนต่ำกว่าในส่วนนั้นออกไป
เริ่มต้น - สินค้าที่สนใจมีราคา 10 บาท
ลำดับที่ 1 เราซื้อสินค้าราคา 10 บาท หลังจากนั้นราคาปรับตัวลดลงเหลือ 9 บาท
ลำดับที่ 2 เราซื้อสินค้าเพิ่มในราคา 9 บาท หลังจากนั้นราคาปรับตัวลดลงต่ออีกเหลือ 8 บาท
ลำดับที่ 3 เราซื้อสินค้าเพิ่มในราคา 8 บาท หลังจากนั้นราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 8.50 บาท
ลำดับที่ 4 เราขายสินค้าที่ราคา 8.50 บาท หลังจากนั้นราคาปรับตัวลดลงเหลือ 8 บาท
ลำดับที่ 5 เราซื้อสินค้าที่ราคา 8 บาท หลังจากนั้นราคาปรับตัวลดลงเป็น 7.00 บาท
ลำดับที่ 6 เราซื้อสินค้าที่ราคา 7 บาท หลังจากนั้นราคาปรับตัวขึ้นเป็น 7.50 บาท
ลำดับที่ 7 เราขายสินค้าที่ราคา 7.50 บาท หลังจากนั้นราคาเพิ่มขึ้นเป็น 8.50 บาท
ลำดับที่ 8 เราขายสินค้าที่ราคา 8.50 บาท

ถ้าเราจับคู่คำสั่งซื้อคำสั่งขายเป็นชุดๆ เราจะมีกำไรชุดละ 0.50 บาท โดยมองอยู่ในรูปของกระแสเงินสดดังนี้
- คำสั่งซื้อลำดับที่ 3 ราคา 8 บาท จับคู่คำสั่งขายลำดับที่ 4 ที่ราคา 8.50 บาท จะได้กำไร 0.50 บาท
- คำสั่งซื้อลำดับที่ 6 ที่ราคา 7 บาท จับคู่คำสั่งขายลำดับที่ 7 ที่ราคา 7.50 บาท จะได้กำไร 0.50 บาท
- คำสั่งซื้อลำดับที่ 5 ที่ราคา 8 บาท จับคู่คำสั่งขายลำดับที่ 8 ที่ราคา 8.50 บาท จะได้กำไร 0.50 บาท.

และเราจะมีสินค้าที่ค้างอยู่ในพอร์ตจาก
- คำสั่งซื้อลำดับที่ 1 ที่ราคา 10 บาท
- คำสั่งซื้อลำดับที่ 2 ที่ราคา 9 บาท

          ในอนาคตหากราคาสินค้ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินกว่า 9 บาท หรือ 10 บาท เราก็สามารถขายสินค้าในราคาที่สูงกว่าราคาที่เราซื้อไว้ แล้วจับคู่คำสั่งซื้อขายเพื่อคำนวณส่วนต่างกำไรที่ได้เป็นกระแสเงินสดได้ แต่ถ้าราคามีการปรับตัวลดลงก็ทยอยซื้อสินค้าเพิ่มตามระดับราคาที่กำหนดไว้

จากแนวคิดการสร้างกระแสเงินสดจากการซื้อขายข้างต้น จะมีเงื่อนไขบางอย่างที่ทำให้กลยุทธ์นี้ประสบความสำเร็จ คือ
          1. สินค้าที่ซื้อขายควรเป็นสินค้าที่ราคามีความผันผวนปรับตัวขึ้นลงอยู่เสมอ เนื่องจากโอกาสในการลงมือซื้อขายจะเกิดขึ้นต่อเมื่อราคาสินค้ามีการเปลี่ยนแปลง
          2. สินค้าที่ซื้อขายต้องเป็นสินค้าที่ไม่เน่าเสีย หรือเป็นสินค้าที่มูลค่าจะไม่มีวันลดลงเหลือ 0 เนื่องจากในกรณีที่มีสินค้าที่ค้างอยู่ในพอร์ต แล้วราคายังไม่สามารถขายได้ในราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อมา หากสินค้ามีการเน่าเสีย หรือปรับตัวเหลือ 0 จะทำให้เกิดผลขาดทุนทันที
          3. ต้นทุนในการถือครองสินสินค้าไม่ควรสูงกว่ากระแสเงินสดที่ได้รับจากการซื้อขาย แต่หากระหว่างที่เรามีการถือสินค้าชนิดนี้อยู่ในสต๊อกหรือในพอร์ต แล้วสินค้านี้สามารถสร้างผลตอบแทนได้ด้วยตัวมันเองก็จะเป็นสินค้าที่น่าสนใจ
          4. เราจะต้องสามารถซื้อขายสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง ในระยะยาว โดยไม่ล้มเลิกกลยุทธ์ในช่วงที่ราคาสินค้ามีมูลค่าต่ำกว่าต้นทุนในพอร์ต
          5. เราจะต้องมีการบริหารเงินที่จะใช้ซื้อขายสินค้าให้ได้หลายๆ ระดับราคา และกำหนดความห่างของแต่ละช่วงระดับราคาที่ต้องการซื้อขายอย่างเหมาะสม เพื่อให้สามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง

          จากเงื่อนไขที่ยกตัวอย่างข้างต้น เรามาดูกันครับว่าทำไม SET50 Index Futures จึงเป็นสินค้าที่น่าสนใจ
          1. ดัชนี SET50 มีการปรับตัวขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ราคาของ SET50 Index Futures ที่อ้างอิงจากดัชนี SET50 มีความผันผวนและปรับตัวขึ้นลงตลอดเวลาด้วยเช่นเดียวกัน
          2. โอกาสที่ดัชนี SET50 ที่เป็นสินค้าที่ SET50 Index Futures ใช้อ้างอิงราคาในการซื้อขาย ซึ่งคำนวณจากราคาของหุ้นขนาดใหญ่ 50 ตัวในตลาดหลักทรัพย์ จะมีโอกาสปรับตัวลดลงเหลือ 0 เป็นไปได้ยากมาก
          3. SET50 Index Futures เป็นสินค้าที่ไม่เน่าไม่เสีย ถึงแม้ว่าจะมีวันหมดอายุก็ตาม แต่ผู้ลงทุนสามารถขยายเวลาถือ SET50 Index Futures ได้นานขึ้นโดยขายสัญญาที่มีอายุสั้นกว่า แล้วเปลี่ยนไปซื้อสัญญาที่มีอายุยาวกว่า โดยยังได้รับผลตอบแทนเพิ่มจากการเปลี่ยนเป็นสัญญาที่มีอายุยาวขึ้นอีกด้วย เนื่องจากสัญญาที่มีอายุยาวกว่าจะมีราคาที่ถูกกว่าสัญญาที่มีอายุสั้นกว่า
          4. จากกลไกการซื้อขาย SET50 Index Futures ที่ใช้วิธีการวางเงินประกันเพียงบางส่วนเมื่อเทียบกับมูลค่าของสัญญา หากผู้ลงทุนมีวิธีในการบริหารเงินในการซื้อขายที่ดี ยังมีโอกาสได้รับอัตราเพิ่มของเงิน (Leverage) ซึ่งช่วยให้ผลตอบแทนเพิ่มสูงขึ้นได้อีก

          อย่างไรก็ตามวิธีการที่แนะนำข้างต้น ต้องการยกเป็นตัวอย่างและนำเสนอให้เห็นอีกหนึ่งแนวคิดในการสร้างผลตอบแทนเท่านั้น มุมมองการสร้างกระแสเงินสดจากการซื้อขายยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้กับการซื้อขายอีกมาก หากผู้ลงทุนสนใจศึกษามุมมองและเทคนิคเพิ่มเติม สามารถศึกษาได้จากคอร์สอบรมหัวข้อ TFEX Professional Trader ซึ่งมีรายละเอียดที่ครบถ้วน
ศึกษาได้ที่ : https://elearning.set.or.th/SETTFEX/courses/143/info


ดูรายละเอียดสินค้าใน SET50 Futures เพิ่มเติมได้ที่ linkout

คอร์ดเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SET50 Futures ฟรี!     
สัมมนา เทรด SET50 Futures อย่างมั่นใจ จับจังหวะ ทำกำไรในตลาดอนุพันธ์linkout


          สุดท้ายนี้ก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนต้องรู้จักศึกษาข้อมูลสินค้าอย่างละเอียดรอบคอบ รู้จักประเมินความเสี่ยง และควรปรึกษาผู้แนะนำการลงทุน หรือโบรเกอร์ก่อนการตัดสินใจลงทุน

แท็กที่เกี่ยวข้อง: แนวคิดเทรด SET50 Futures Cash Flow
บทความที่เกี่ยวข้อง