5 Min Read
| ซื้อขายอนุพันธ์ ทำไมต้องวาง “เงินหลักประกัน” | |
| เนื่องจากลักษณะของผลิตภัณฑ์เป็นรูปแบบของสัญญาที่ยังไม่ได้มีการส่งมอบสินค้า ผู้ลงทุนจึงไม่จำเป็นต้องชำระเงินเต็มจำนวนเท่ากับมูลค่าของสินค้าอ้างอิง ตั้งแต่วันที่ ซื้อขายประกอบกับสินค้าส่วนใหญ่ใน ตลาด TFEX ใช้วิธีการคิดกำไรขาดทุนตามส่วนต่าง ของราคาซื้อขายเป็นเงินสด (Cash Settlement) ดังนั้นเพื่อให้เกิดความ มั่นใจระหว่าง ผู้ซื้อและผู้ขาย รวมถึงทำให้การซื้อขายในตลาด TFEX มีเสถียรภาพ ในการชำระเงินกำไร ขาดทุน จึงมีกลไกในการวางหลักประกันก่อนการซื้อขาย |
| หลักประกันขั้นต้น (Initial Margin - IM) | |
| เป็นจำนวนเงินประกันขั้นต้นที่โบรกเกอร์กำหนดให้ผู้ลงทุนต้องวางไว้ในบัญชีอนุพันธ์ก่อนที่จะส่งคำสั่งซื้อขายได้ | |
| หลักประกันรักษาสภาพ (Maintenance Margin - MM) | |
| เป็นระดับหลักประกันที่เป็นเหมือนเกณฑ์เฝ้าระวังอยู่ที่ 70% ของ Initial Margin ถ้าระดับของเงินประกันในบัญชีเหลืออยู่ต่ำกว่าระดับ Maintenance Margin โบรกเกอร์จะเรียกให้ผู้ลงทุนนำเงินประกันมาวางเพิ่ม (Margin Call) ให้เท่ากับ Initial Margin อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเลือกบริหารจัดการโดยจะวางเงินประกันเพิ่มหรือปิดสถานะสัญญาเลยก็ได้ | |
| หลักประกันปิดสถานะ (Force Close Margin - FM) | |
| อยู่ที่ 30% ของ Initial Margin ในกรณีที่ตลาดมีความผันผวนสูง จนทำให้บัญชีอนุพันธ์มีผลขาดทุนมาก และเงินประกันลดลงจนต่ำกว่าระดับ Force Close Margin ผู้ลงทุนก็จะถูกเรียกให้ต้องนำเงินประกันมาวางเพิ่มเช่นกัน ซึ่งหากไม่สามารถดำเนินการได้ตามระยะเวลาที่กำหนดก็จะถูกบังคับปิดสถานะรับรู้ผลขาดทุนทันทีเพื่อเป็นการจำกัดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นและป้องกันไม่ให้เงินหลักประกันที่ผู้ลงทุนวางไว้ติดลบ | |
| ทั้งนี้ อัตราหลักประกันที่โบรกเกอร์เรียกเก็บจากผู้ลงทุน จะใช้แนวทางที่ชมรมผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (FI Club) กำหนดใน “มาตรฐานการประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า” |
| ตรวจสอบอัตราหลักประกันของสินค้าทั้งหมดใน TFEX คลิก |

