5 Min Read
พาเดินตลาด TFEX ตอนที่ 4 Stock Futures ซื้อง่ายขายคล่อง ทำ Block Trade ก็ได้
สำหรับผู้ลงทุนที่ซื้อขายในตลาด TFEX อยู่แล้ว คงจะรู้กันดีว่าการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX นั้นมีข้อดีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง การใช้เงินในการซื้อขายที่น้อยกว่า และอัตราเพิ่มของเงิน หรือ Leverage ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรที่มากขึ้น ประเด็นสำคัญอย่างหนึ่งที่ผู้ลงทุนต้องคำนึงถึงเวลาที่จะเข้ามาซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภทใดก็ตามใน TFEX ก็คือ สภาพคล่องในการซื้อขาย ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีสภาพคล่องดี จะทำให้ผู้ลงทุนทำสัญญาซื้อหรือขายได้ง่าย ตามราคาและจำนวนสัญญาที่ต้องการ โดยผู้ลงทุนควรหลีกเลี่ยงการซื้อขายในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีสภาพคล่องต่ำ
สำหรับผู้ลงทุนที่ซื้อขายในตลาด TFEX อยู่แล้ว คงจะรู้กันดีว่าการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX นั้นมีข้อดีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง การใช้เงินในการซื้อขายที่น้อยกว่า และอัตราเพิ่มของเงิน หรือ Leverage ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรที่มากขึ้น ประเด็นสำคัญอย่างหนึ่งที่ผู้ลงทุนต้องคำนึงถึงเวลาที่จะเข้ามาซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภทใดก็ตามใน TFEX ก็คือ สภาพคล่องในการซื้อขาย ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีสภาพคล่องดี จะทำให้ผู้ลงทุนทำสัญญาซื้อหรือขายได้ง่าย ตามราคาและจำนวนสัญญาที่ต้องการ โดยผู้ลงทุนควรหลีกเลี่ยงการซื้อขายในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีสภาพคล่องต่ำ
วิธีการดูว่าสัญญาซื้อขายล่วงหน้าใน TFEX ตัวไหนมีสภาพคล่องดีหรือไม่ ให้ดูจากส่วนต่างระหว่างราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขาย (Bid Ask Spread) ร่วมกับ ปริมาณสัญญาที่เสนอซื้อ (Bid Volume) และปริมาณสัญญาที่เสอนขาย (Ask Volume) โดยสินค้าที่มีสภาพคล่องสูง จะมี Bid Ask Spread ที่แคบ และมี Bid Volume และ Ask Volume ที่มาก อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง การใช้ข้อมูลปริมาณการซื้อขายเป็นตัวตัดสินว่าสินค้าใดมีสภาพคล่องสูงหรือต่ำ อาจเป็นข้อมูลที่บอกได้ไม่ดีเท่า Bid Ask Spread, Bid Volume และ Ask Volume เนื่องจากหากปริมาณการซื้อขายจำนวนมากที่เกิดขึ้นเป็นการเกิดขึ้นจากการซื้อขายในระยะเวลาสั้นๆ แล้วถ้าหลังจากนั้น ไม่มีการเสนอซื้อหรือเสนอขายเข้ามาในตลาดอีก ก็จะทำให้ผู้ลงทุนไม่สามารถซื้อขายตามราคาและจำนวนที่ต้องการได้หลังจากนั้น
จากข้อมูลปริมาณการซื้อขาย Single Stock Futures ใน TFEX ที่มีหุ้นอ้างอิงมากถึง 122 ตัว ในปัจจุบัน พบว่ามีการเติบโตขึ้นอย่างมาก โดยมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 อยู่ที่ 199,517 สัญญา (เพิ่มขึ้น +10.86%) ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 179,974 สัญญา ซึ่งสภาพคล่องส่วนหนึ่งมาจาก Market Maker ที่เข้ามาวางราคาเสนอซื้อเสนอขาย และเข้ามาจับคู่สัญญาที่มีผู้ลงทุนวางเสนอราคาไว้ และอีกส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากธุรกรรมประเภท Block Trade
ธุรกรรม Block Trade จะเป็นการทำสัญญาซื้อขาย Single Stock Futures ระหว่างโบรเกอร์กับผู้ลงทุน โดยตกลงราคาและจำนวนที่จะซื้อขายกันนอกตลาด (ไม่ได้ซื้อขายผ่านระบบจับคู่อัตโนมัติ) จากนั้นก็บันทึกรายการสั่งซื้อขายเพื่อจับคู่กันเองเข้ามาในระบบซื้อขายของ TFEX ซึ่งวิธีการนี้ถ้าเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นก็คล้ายกับธุรกรรม Put Through หรือ Big Lot โดยราคาที่โบรเกอร์จะเสนอซื้อหรือเสนอขายให้กับผู้ลงทุน จะอ้างอิงจากราคาเสนอซื้อเสนอขายของหุ้นที่กำลังซื้อขายอยู่ในตลาดหุ้น ณ ขณะนั้นๆ เปรียบเสมือนว่าผู้ลงทุนซื้อขายหุ้นตัวนั้นๆ ในตลาดหุ้น แต่ผ่านเครื่องมือประเภท Single Stock Futures นั่นเอง เงื่อนไขอย่างหนึ่งของโบรเกอร์ที่ให้บริการธุรกรรม Block Trade ที่มักจะทำการตกลงกับลูกค้าก่อนการให้บริการ คือ ผู้ที่ทำสัญญาซื้อหรือขายด้วยวิธี Block Trade เมื่อต้องการล้างสถานะสัญญา จะต้องล้างสถานะสัญญาด้วยวิธี Block Trade กับโบรเกอร์ที่ให้บริการเท่านั้น โบรเกอร์ที่ให้บริการธุรกรรม Block trade จะคิดค่าใช้จ่ายกับผู้ลงทุนจากมูลค่าสัญญาที่ทำธุรกรรม ตามระยะเวลาที่ผู้ลงทุนถือสถานะ โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อปี คล้ายกับวิธีการคำนวณดอกเบี้ย เช่น ถ้าโบรเกอร์คิดค่าใช้จ่ายที่ 6% ต่อปี กรณีที่ผู้ลงทุนทำสัญญาซื้อ Single Stock Futures อ้างอิง หุ้น BBL ซึ่งมีราคาเสนอขายบนกระดานหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่ 105 บาท จำนวน 20 สัญญา (1 สัญญาเท่ากับ 1,000 หุ้น มูลค่าของสัญญาที่ทำธุรกรรมจะเท่ากับ 2,100,000 บาท และถือสัญญาไป 30 วันจึงล้างสถานะ จะถูกคิดค่าใช้จ่ายเท่ากับ 2,100,000 * (30/365) * 6% = 10,356 บาท เป็นต้น
ผู้ลงทุนที่ต้องการใช้บริการ Block Trade กับโบรเกอร์ ยังมีเงื่อนไขเพิ่มเติมอีกอย่างหนึ่ง คือ TFEX มีการกำหนดจำนวนสัญญาขั้นต่ำของ Single Stock ที่สามารถทำธุรกรรมแบบ Block Trade ได้ โดยแบ่งเป็น 4 ขั้น คือ ขั้นต่ำ 20 สัญญา 100 สัญญา 500 สัญญา และ 1,000 สัญญา โดยใช้ราคาของหุ้นที่ Single Stock Futures อ้างอิง เป็นเกณฑ์ โดยหุ้นใดจะมีจำนวนสัญญาขั้นต่ำในการทำธุรกรรม Block Trade เท่าไร สามารถดูได้จากลิงค์ https://www.set.or.th/rulebook/#/regulation/content/25933
อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการซื้อขาย Single Stock Futures แต่ปริมาณการซื้อขายไม่ถึงขึ้นต่ำตามที่กำหนด ก็ยังสามารถซื้อขาย Single Stock Futures ผ่านระบบจับคู่อัตโนมัติ (ซื้อขายบนกระดาน) ได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่ให้หลีกเลี่ยง Single Stock Futures ที่มีสภาพคล่องต่ำ โดยดูจาก Bid Offer Spread และ Bid Offer Volume ตามที่ได้ให้ข้อสังเกตไว้ในตอนต้นของโพสต์
สุดท้ายนี้อยากฝากสำหรับผู้ที่สนใจการทำ Block Trade ว่าด้วยอัตราเพิ่มของเงิน (Leverage) ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรที่มากขึ้น และจำนวนสัญญาขั้นต่ำ หมายความว่าในทางกลับกันก็มีโอกาสขาดทุนที่มากเช่นกัน
ดังนั้นก่อนลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน ต้องรู้จักวางแผนและมีวินัย เมื่อมีกำไรต้องรู้จักทำกำไร ในขณะที่เมื่อรู้ว่าผิดทาง ต้องรู้จักตัดขาดทุน ไม่ปล่อยให้การขาดทุนจนเป็นปัญหาหรือกินเงินทุนจนหมด ผู้เริ่มต้นลงทุนควรปรึกษาผู้แนะนำการลงทุน หรือโบรเกอร์ของท่าน ก่อนการตัดสินใจลงทุน
ดูรายละเอียดสินค้า Single Stock Futures เพิ่มเติมได้ที่ https://www.tfex.co.th/th/products/stock-spec.html
บทความที่เกี่ยวข้อง