เทรด SET50 Index Futures ตั้งค่ากราฟอย่างไร ให้โดนใจ
เชื่อว่าคำถามแรกในใจของผู้ที่ซื้อขายหุ้นสายเทคนิค และกำลังสนใจเข้ามาซื้อขาย SET50 Index Futures ใน TFEX จะมีคำถามเบื้องต้นที่คล้ายกันคือ “จะใช้แนวคิดทางเทคนิควิเคราะห์กราฟเพื่อซื้อขาย SET50 Index Futures ได้ไหม แล้ววิธีตั้งค่ากราฟจะเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรกับตอนซื้อขายหุ้น” โพสต์นี้มีคำตอบให้
ผู้ที่ซื้อขาย SET50 Index Futures นิยมซื้อขายแบบทำกำไรในระยะสั้น เนื่องจากซื้อขายใน TFEX มีอัตราเพิ่มของเงิน (Leverage) จากกลไกการซื้อขายที่ใช้วิธีวางเงินประกันเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับมูลค่าสัญญา ซึ่งผลที่เกิดขึ้นจาก Leverage คือ ถึงแม้ดัชนี SET50 จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงเพียงเล็กน้อย แต่ผู้ที่ซื้อขาย SET50 Index Futures จะเกิดผลกำไร/ขาดทุนได้มาก จากเหตุผลที่ยกขึ้นมา ทำให้จังหวะซื้อขายที่ดีจึงมีความสำคัญอย่างมากถ้าเราจะซื้อขายสินค้าใน TFEX เมื่อจังหวะซื้อขายมีความสำคัญ การวิเคราะห์ทางเทคนิคจึงเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ที่ซื้อขาย SET50 Index Futures เพราะเป็นแนวทางที่สามารถใช้เพื่อหาจังหวะในการซื้อขายที่ดีได้ โดยการวิเคราะห์ทางเทคนิคต้องอาศัยข้อมูลจากกราฟการเคลื่อนที่ของราคา และเครื่องมืออื่นๆ ทางเทคนิคเช่น แนวรับ-แนวต้าน อินดิเคเตอร์ เป็นต้น แต่การใช้งานกราฟเพื่อซื้อขาย SET50 Index Futures จะมีบางอย่างที่เหมือนและบางอย่างที่แตกต่างกับการใช้งานกราฟเพื่อซื้อขายหุ้น เราจึงได้รวบรวมข้อแนะนำเบื้องต้นสำหรับการตั้งค่ากราฟเพื่อใช้ซื้อขาย SET 50 Index Futures มานำเสนอกัน ได้แก่
ควรใช้งานกราฟที่แสดงข้อมูลแบบปัจจุบัน (Real-Time) เนื่องจากปัจจุบันมีโปรแกรมวิเคราะห์กราฟให้ใช้งานแบบไมมีค่าใช้จ่ายมากมาย บางโปรแกรมก็แสดงข้อมูลกราฟแบบ Real-Time บางโปรแกรมก็มีการหน่วงเวลาโดยให้ข้อมูลแบบล่าช้า (Delayed) ซึ่งการซื้อขายแบบระยะสั้น ข้อมูลที่ล่าช้าอาจส่งผลให้พลาดจังหวะที่ดีในการลงมือซื้อขายได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญลำดับแรกคือ ควรตรวจสอบก่อนว่ากราฟที่เรากำลังจะเลือกใช้งานแสดงข้อมูลแบบ Real-Time หรือไม่
ใช้กราฟที่นำข้อมูลราคา SET50 Index Futures หลายซีรีส์มาวาดแบบต่อกัน (กราฟแบบ Continuous) เนื่องจาก SET50 Index Futures แต่ละซีรีส์มีวันหมดอายุ ถ้าเราดูกราฟที่วาดจากข้อมูลเฉพาะซีรีส์เรากำลังสนใจซื้อขาย อาจทำให้เราเห็นข้อมูลย้อนหลังได้ไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจ ตัวอย่างการกำหนดซีรีส์สำหรับนำมาวาดกราฟแบบ Continuous ที่ได้รับความนิยม เช่น ซีรีส์ที่จะใช้ข้อมูลมาวาดกราฟในปัจจุบันจะเป็นซีรีส์ที่มีสถานะคงค้าง (Open Interest) สูงที่สุดในวันทำการก่อนหน้า (วาดกราฟต่อเนื่องโดยใช้เงื่อไข Open Interest) เป็นต้น ด้วยเทคนิคนี้เราก็จะได้กราฟสำหรับวิเคราะห์ SET50 Index Futures ที่มีข้อมูลย้อนหลังจำนวนมากนั่นเอง
เลือกใช้กราฟประเภทกราฟแท่ง (Bar Chart) หรือกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นกราฟที่ช่วยให้เราเห็นข้อมูลทั้ง 4 อย่าง ได้แก่ ราคาเปิด ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด และราคาปิด ในช่วงเวลาที่เรากำหนด การที่เราเลือกใช้ประเภทกราฟที่ให้ข้อมูลกับเราได้มาก ก็จะยิ่งช่วยให้เราวิเคราะห์ข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงมือซื้อขายได้ละเอียดยิ่งขึ้น
เลือกระยะเวลาในการวาดกราฟ 1 แท่งเทียนที่สั้นลง (Time Frame สั้น) ในการวิเคราะห์กราฟเพื่อซื้อขายหุ้น ส่วนใหญ่เริ่มต้นด้วยการกำหนด Time Frame = Day (กราฟแท่งเทียน 1 แท่ง วาดจากการเคลื่อนที่ราคาใน 1 วัน) แต่สำหรับการซื้อขาย SET50 Index Futures ที่มักเป็นการซื้อขายในระยะสั้นกว่าการซื้อขายหุ้น แนะนำให้ลองปรับ Time Frame ของกราฟให้สั้นลง เช่น 5 นาที หรือ 10 นาที เป็นต้น เนื่องจากการกำหนด Time Frame สั้นลง จะทำให้เห็นการเคลื่อนไหวของราคาได้ละเอียดขึ้น และหาจังหวะในการซื้อขายได้ดีขึ้น นอกจากนี้เราอาจตั้งหน้าจอให้แสดงกราฟในหลาย Time Frame พร้อมกันบนหน้าจอเดียว ก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน
เพิ่มข้อมูลสถานะคงค้าง (Open Interest) ลงในกราฟที่วิเคราะห์ โดยข้อมูล Open Interest จะเป็นข้อมูลที่เกิดขึ้นเฉพาะตราสารประเภทอนุพันธ์ โดยการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของ Open Interest เป็นข้อมูลที่น่าสนใจอีกข้อมูลหนึ่ง ที่ช่วยให้การวิเคราะห์พฤติกรรมของตลาดได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น โดยการที่แนวโน้มของ Open Interest ที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่ามีผู้เข้ามามีส่วนร่วมในตลาดเพิ่มมากขึ้น และการที่ Open Interest มีแนวโน้มปรับตัวลดลง จะแสดงให้เห็นว่ามีคนเริ่มออกจากตลาดเพื่อรับรู้ผลกำไร/ขาดทุน ทั้งนี้ข้อมูล Open Interest เป็นข้อมูล ณ สิ้นวัน ดังนั้นมันจึงสามารถแสดงได้เฉพาะเวลาเลือก Time Frame = Day เท่านั้น
ดูรายละเอียดสินค้า SET50 Futures เพิ่มเติมได้ที่นี่
รับชม เทรด SET50 Futures อย่างมั่นใจ จับจังหวะ ทำกำไรในตลาอนุพันธ์ได้ที่นี่