ถ้าพูดถึงการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือใดก็ตาม ผู้ลงทุนทั่วไปมักจะใช้ในการหา 4 ผลลัพธ์สำคัญคือแนวโน้มขึ้นลง, จุดกลับตัวของราคา, แนวรับแนวต้านและจุดซื้อจุดขาย
“แนวโน้มขึ้นลง” (up-trend, down-trend) มีประโยชน์ในการวางกลยุทธ์หลักในการลงทุนว่าช่วงเวลานั้น ๆ กลยุทธ์หลักนักลงทุนจะอยู่ฝั่งซื้อ (Long positions) หรืออยู่ฝั่งขาย (Short positions)
“จุดกลับตัวของราคา” (Reversal point) สามารถบอกจุดเปลี่ยนกลยุทธ์จากซื้อเป็นขายหรือจากขายเป็นซื้อ
“แนวรับแนวต้าน” (Support - Resistance) บอกจุดระมัดระวังที่มักจะมีแรงซื้อหรือแรงขายจำนวนมาก
แต่ที่สำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนและประกอบการเปิดปิดสถานะการลงทุนคือ “จุดซื้อจุดขาย” (Buy - Sell signal) ซึ่งเครื่องมือทางเทคนิคก็มีหลากหลายเครื่องมือที่สามารถบอก “จุดซื้อจุดขาย” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในเครื่องมือที่เป็นที่นิยมคือการใช้จุดตัดเส้นค่าเฉลี่ยหรือ Moving average เรียกว่าเป็นเครื่องมือสารพัดประโยชน์เพราะสามารถใช้ประเมินแนวโน้มดูระดับต้นทุนเฉลี่ย วันนี้เราจะมาใช้ Moving average เพื่อหาจุดซื้อจุดขายจาก "Golden cross” และ “Dead cross”
ก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนว่าเส้นค่าเฉลี่ยหรือ Moving average เกิดขึ้นจากการนำราคาในอดีตมาเฉลี่ย (ตามช่วงเวลาที่ผู้วิเคราะห์กำหนด) โดยเราอาจจะใช้ราคาใดก็ได้ในการหาค่าเฉลี่ย เช่น ราคาเปิด ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด แต่ที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือราคาปิดของช่วงเวลานั้น ๆ อย่างถ้าเราใช้กราฟรายวันราคาปิดของวันจะถูกใช้เป็นค่าที่จะนำมาเฉลี่ยด้านระยะเวลา ผู้วิเคราะห์สามารถกำหนดระยะเวลา (Period) ที่จะทำการเฉลี่ย เช่น ถ้าเราต้องการหาค่าเฉลี่ย 3 วันแบบ simple moving average ก็เพียงแค่นำราคาปิด 3 วันล่าสุดนำมารวมกันแล้วหารด้วยจำนวนวันคือ 3 ก็จะได้ค่าเฉลี่ยในวันล่าสุดและทำแบบนี้ทุกวันก็จะได้เส้นค่าเฉลี่ย SMA 3 วัน
ตัวอย่าง ราคาปิดของ SET50 Index 3 วันล่าสุดเท่ากับ 950, 970 และ 965 ตามลำดับ
เส้นค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 วันจะเท่ากับ (950 + 970 + 966) / 3 = 962 จุด