TFEX
5 Min Read

Divergence สวนทาง สัญญาณเปลี่ยนเทรนด์

by TFEX
Divergence สวนทาง สัญญาณเปลี่ยนเทรนด์

          ขาขึ้นให้ซื้อ (Long) ขาลงให้ขาย (Short) คือหลักคิดในการลงทุนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ส่วนเครื่องมือหลักที่นักลงทุนใช้ในการประเมิน หรือวิเคราะห์การลงทุนในการเล่นตามแนวโน้ม คือเครื่องมือทางเทคนิค ซึ่งการใช้เครื่องมือทางเทคนิคนั้นสามารถเลือกใช้ได้หลากหลาย เช่น การวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend) การหาแนวรับ/แนวต้าน (Support/Resistance) จุดซื้อ/จุดขาย (Buy/Sell Signal) รวมถึงสัญญาณการกลับตัวต่างๆ

          Divergence คือหนึ่งในสัญญาณที่ใช้หาจุดกลับตัว ซึ่งจะทำให้นักลงทุนทราบถึงการจบแนวโน้ม หรือจุดระมัดระวังก่อนจะเกิดการกลับตัวของราคา ซึ่งสามารถวิเคราะห์ได้จากเครื่องมือ MACD หรือ Moving Average Convergence Divergence โดยก่อนจะเล่าถึงสัญญาณ Divergence จะขอขยายความเครื่องมือ MACD พอสังเขปให้พอเข้าใจกัน เครื่องมือ MACD คือเครื่องมือที่พัฒนาต่อมาจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) เป็นการหาสัญญาณซื้อขาย โดยใช้การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ย 2 เส้น ซึ่งจะให้เส้นหนึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น และอีกเส้นเป็นเส้นค่าเฉลี่ยที่ระยะยาวกว่า เมื่อเกิดการตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยกันก็จะเกิดสัญญาณซื้อขาย (เส้นสั้นตัดขึ้นเป็นสัญญาณซื้อ หากเส้นสั้นตัดลงเป็นสัญญาณขาย) เมื่อต่อยอดมาเป็นเครื่องมือ MACD ให้เห็นภาพชัดมากขึ้นจึงได้ใช้ “ส่วนต่าง” ของเส้นค่าเฉลี่ย EMA (Exponential Moving Average) ระยะ 12 Period และ 26 Period โดยเส้นนี้จะเรียกว่า MACD เมื่อเส้นนี้ตัดระดับ “0” เมื่อไรจะหมายถึงเกิดการตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ย EMA 12 Period ตัดกับเส้นค่าเฉลี่ย EMA 26 Period ซึ่งในทางเทคนิคก็คือเกิดสัญญาณซื้อขายนั่นเอง ซึ่งในภายหลังได้มีการพัฒนาจุดซื้อขายที่เร็วขึ้นด้วยการสร้างเส้น Signal Line ที่เกิดจากเส้นค่าเฉลี่ยแบบ SMA 9 Period ของตัว MACD เอง เป็นจุดตัดซื้อขายใหม่เพื่อให้เกิดสัญญาณที่เร็วขึ้น

 

          การอ่านค่า Divergence ในเครื่องมือ MACD เราจะดูจากเส้น MACD กับกราฟราคา โดยปกติแล้วเส้น MACD และกราฟราคาจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันในน้ำหนักที่ใกล้เคียงกัน เช่น ถ้าราคาทำจุดสูงสุดใหม่ MACD มักจะทำจุดสูงสุดใหม่ด้วย (เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดก่อนหน้า) หรือถ้าราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ MACD ก็มักจะทำจุดต่ำสุดใหม่เช่นกัน สัญญาณ Divergence จะเกิดขึ้นเมื่อ MACD และราคาไม่ไปในทางที่สอดคล้องกัน

กรณีที่ 1 “ราคาทำจุดสูงสุดใหม่แต่ MACD ทำจุดสูงสุดที่ต่ำลง” สัญญาณนี้จะเรียกว่า Bearish Divergence หรือสัญญาณที่บอกว่าราคาอาจจะกลับแนวโน้มจากขาขึ้นเป็นขาลงในอนาคต อย่างไรก็ดีสัญญาณ Bearish Divergence ยังไม่ได้ถือเป็นสัญญาณซื้อขาย เพียงแต่บอกให้เกิดความระมัดระวังว่าแนวโน้มขาขึ้นที่กำลังดำเนินอยู่นั้นอาจจะมีการเปลี่ยนแนวโน้มในอนาคต สัญญาณที่น่าสนใจอีกส่วนเวลาเกิด Bearish Divergence คือในช่วงที่ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ปริมาณการซื้อขายมักจะน้อยกว่า จุดสูงสุดก่อนหน้า ซึ่งไม่สอดคล้องกับปริมาณการซื้อขายในช่วงขาขึ้น

กรณีที่ 2 “ราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่ MACD ทำจุดต่ำสุดที่ยกสูงขึ้น” สัญญาณนี้จะเรียกว่า Bullish Divergence หรือสัญญาณที่บอกว่าราคาอาจจะกลับแนวโน้มจากขาลงเป็นขาขึ้นในอนาคต เช่นกันเวลาเกิด Bullish Divergence ช่วงที่ราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ปริมาณการซื้อขายมักจะน้อยกว่า จุดต่ำสุดก่อนหน้า

 

          การใช้สัญญาณ Divergence จะแม่นยำขึ้นเมื่อใช้สัญญาณอื่นประกอบ เช่น การดู Reversal Patterns ในกราฟแท่งเทียน การดูสัญญาณ Overbought หรือ Oversold การดูปริมาณการซื้อขาย และใช้เครื่องมือทางเทคนิคอื่นในการบอกสัญญาณ Buy/Sell ซึ่งจะเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ

 

          อย่างไรก็ดีการอ่านเครื่องมือทางเทคนิคนั้น นักลงทุนจำเป็นต้องประเมินถึงปริมาณการซื้อขายและสภาพคล่องของสินทรัพย์ที่กำลังวิเคราะห์ประกอบ โดยเครื่องมือทางเทคนิคจะใช้ได้ดีกับสินทรัพย์ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงและมีสภาพคล่อง

ดูรายละเอียดสินค้าใน TFEX เพิ่มเติมได้ที่นี่ linkout

          Divergence เป็นเพียงหนึ่งใน Trick ดีๆ ที่เรานำมาฝาก นักลงทุนที่สนใจสามารถศึกษาเครื่องมือการลงทุนและกลยุทธ์ดีๆ เพิ่มเติมได้ ติดตาม Smart Trick ย้อนหลังได้ผ่านทาง https://www.tfex.co.th/th/education/main 

          หรือกดติดตาม TFEX Station เพื่อไม่ให้พลาดเรื่องการลงทุนได้ที่: https://www.facebook.com/TFEXStation/


บทความที่เกี่ยวข้อง