Futures เครื่องมือทำกำไรในทุกสภาวะตลาด

          ปี 2565 น่าจะเป็นอีกปีที่มีความผันผวนสูง จากหลากหลายปัจจัยที่มีโอกาสเข้ามากระทบต่อตลาดการลงทุน ทั้งตลาดทุน ตลาดตราสารหนี้ ตลาดค่าเงิน รวมถึงตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยที่มาจากการปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงิน ปัจจัยเงินเฟ้อ การฟื้นตัวจาก COVID-19 สงครามการค้า รวมถึงปัจจัยการเมืองโลกและการเมืองภายในประเทศ

แต่เราจะรับมือกับความผันผวนหรือหาโอกาสจากความผันผวนของตลาดการลงทุนได้อย่างไร?

          Futures Contract ถือเป็นหนึ่งเครื่องมือที่สามารถเลือกใช้ในการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด หรือสร้างโอกาสทำกำไรจากความผันผวนของตลาดด้วยเช่นกัน ที่สำคัญปัจจุบันตลาดอนุพันธ์หรือ TFEX มี Futures Contract ให้เลือกลงทุนหลากหลายทั้งที่อ้างอิงกับดัชนีตลาดหุ้นไทย อ้างอิงหุ้นรายตัว อ้างอิงทองคำ อ้างอิงโลหะเงิน อ้างอิงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงอ้างอิงกับราคายางพารา ทำให้ผู้ลงทุนสามารถจับสัญญาณตลาด ทั้งตลาดทุน ตลาดค่าเงิน รวมถึงตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และลงทุนสร้างกำไรใน Futures Contract ได้

แล้ว Futures ทำกำไรในทุกสภาวะตลาดได้อย่างไร

          Futures Contract หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นสัญญาที่ทำให้ผู้ลงทุนสามารถ “ซื้อ” หรือ “ขาย” ล่วงหน้าได้ ในกรณีที่ผู้ลงทุน “ซื้อล่วงหน้า” จะเรียกว่าการเปิด “Long Position” ซึ่งจะได้กำไรเมื่อราคาสินค้าอ้างอิงมีการปรับตัวสูงขึ้น แต่ในกรณีที่ผู้ลงทุน “ขายล่วงหน้า” จะเรียกว่าการเปิด “Short Position” จะได้กำไรเมื่อราคาสินค้าอ้างอิงปรับตัวลดลง ตัวอย่างของการลงทุน Futures Contract ทั้งฝั่งซื้อและฝั่งขายเป็นดังนี้

ยกตัวอย่างการลงทุนใน SET50 Index Futures

ถ้ามองว่าตลาดเป็นขาขึ้น ให้เปิด “Long Position”เพื่อซื้อล่วงหน้า

หากวันที่ 1 กุมภาพันธ์ SET50 Index Futures อยู่ที่ระดับ 1,000 จุด นักลงทุนเปิดสถานะ “Long Position”เพื่อซื้อล่วงหน้าแล้ว

ถ้าในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ SET50 Index Futures ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,020 จุด และนักลงทุนปิดสถานะจะมีกำไรเท่ากับ (1,020 – 1,000) x 200 หรือมีกำไรเท่ากับ 4,000 บาท (โดยยังไม่รวมค่าธรรมเนียมการซื้อขาย)

- 1,020 คือ ระดับปัจจุบันของ SET50 Index Futures

- 1,000 คือ ระดับที่เปิดสถานะ Long SET50 Index Futures

- 200 คือ ตัวคูณของสัญญา (ซึ่งกำหนดเป็นมาตฐานโดย TFEX)

แต่ถ้ามองว่าตลาดเป็นขาลง ให้เปิด “Short Position” เพื่อขายล่วงหน้า

หากวันที่ 1 กุมภาพันธ์ SET50 Index Futures อยู่ที่ระดับ 1,000 จุด นักลงทุนเปิดสถานะ “Short Position” เพื่อขายล่วงหน้าแล้ว

ถ้าในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ SET50 Index Futures ปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 980 จุด และนักลงทุนปิดสถานะจะมีกำไรเท่ากับ (1,000 – 980) x 200 หรือมีกำไรเท่ากับ 4,000 บาท (โดยยังไม่รวมค่าธรรมเนียมการซื้อขาย)

- 980 คือ ระดับปัจจุบันของ SET50 Index Futures

- 1,000 คือ ระดับที่เปิดสถานะ Short SET50 Index Futures

- 200 คือ ตัวคูณของสัญญา (ซึ่งกำหนดเป็นมาตฐานโดย TFEX)

          ตัวอย่างในตลาดขาขึ้นนักลงทุนอาจจะเข้าใจดีอยู่แล้วเพราะเป็นหลักการของการ “ซื้อต่ำขายแพง” เหมือนการลงทุนในหุ้นหรือสินทรัพย์ทั่วไป แต่การลงทุนขาลง (Short Position) จะเป็นการที่นักลงทุนล็อคราคาขายไว้ล่วงหน้า ดังนั้นถ้าราคาตลาดต่ำกว่าราคาที่นักลงทุนล็อคไว้ นักลงทุนจะสามารถขายได้แพงกว่าราคาตลาดซึ่งก็จะเป็นส่วนกำไรของนักลงทุน

          จะเห็นได้ว่า Futures Contract เป็นเครื่องมือที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ทุกสภาวะตลาด ทั้งขาขึ้นและขาลง จึงเหมาะที่จะเป็นหนึ่งเครื่องมือการลงทุนในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง ตามทิศทางตลาดในปี 2565

เรียนรู้ทำความรู้จัก Futures Contract หรืออนุพันธ์ให้มากขึ้นคลิก
ดูรายละเอียดสินค้าใน SET50 Futures เพิ่มเติมได้ที่ 

คอร์ดเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SET50 Futures ฟรี!     
สัมมนา เทรด SET50 Futures อย่างมั่นใจ จับจังหวะ ทำกำไรในตลาดอนุพันธ์