เมื่อคาดการณ์ว่าตลาดมีแนวโน้มผันผวนสูง ไม่ขึ้นแรงก็ลงแรง
กลยุทธ์ Long Volatility เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งทำกำไรจากความผันผวนที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยผู้ลงทุน Long Call Options และ Long Put Options โดยหากตลาดขึ้นแรง ผู้ลงทุนจะมีโอกาสได้กำไรจาก Long Call Options แต่หากตลาดลงแรง ผู้ลงทุนจะมีโอกาสได้กำไรจาก Long Put Options เหมาะกับภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน มีโอกาสขึ้นแรงไม่ก็ลงแรง เช่น การประกาศผลการเลือกตั้ง การประกาศเปลี่ยนแปลงนโยบายสำคัญ วิกฤตการณ์ต่างๆ โดยสามารถใช้ได้ในหลายรูปแบบเช่น
1) Long Straddle = Long Call Options + Long Put Options ที่ Strike Price เดียวกัน วันหมดอายุเดียวกัน
2) Long Strangle = Long Call Options + Long Put Options ที่ Strike Price ต่างกัน วันหมดอายุเดียวกัน
ข้อดี/จุดเด่น
ข้อควรรู้
Payoff Diagram
ตัวอย่าง
วันที่ t ซื้อ Call Options (Long Call) ที่ราคาใช้สิทธิ 900 จ่ายค่าพรีเมี่ยม 10 จุด และซื้อ Put Options ที่ราคาใช้สิทธิ 900 จ่ายค่าพรีเมี่ยม 20 จุด
วันที่ t+5 ขาย Call Options (Short Call) ที่ราคาใช้สิทธิ 900 ไปที่ราคาค่าพรีเมี่ยม 35 จุด และขาย Put Options (Short Put) ที่ราคาใช้สิทธิ 900 ไปที่ราคาค่าพรีเมี่ยม 12 จุด
กำไร/ขาดทุน = ต้นทุนขาย - ต้นทุนซื้อ
= [Premium "ขาย" * ตัวคูณดัชนี "200"] - [Premium "ซื้อ" * ตัวคูณดัชนี "200"]
= [(35*200)+(12*200)] - [(10*200)+(20*200)]
= [7,000+2,400] - [2,000+4,000]
= 9,400 - 6,000
= +3,400