“ขึ้น 5 ลง 3” กับวัฏจักรราคา สำหรับผู้ลงทุนที่วิเคราะห์การลงทุนด้วย Elliott wave คงคุ้นเคยกันดีกับคำว่ารอบวัฏจักรราคา การเคลื่อนไหวของราคาโดยปกติจะประกอบไปด้วยคลื่นทั้งหมด 8 คลื่น ซึ่งแบ่งเป็นคลื่นในช่วงขาขึ้น 5 ลูกคลื่น และในช่วงขาลง 3 ลูกคลื่น โดยช่วงตลาดขาขึ้นจะมีคลื่นลูกที่ 2 และ 4 เป็นจุดที่พักตัว (ปรับตัวลดลง) หรืออาจจะกล่าวโดยสรุปได้ว่า
“ในตลาดการลงทุนนั้นเราไม่สามารถหนีตลาดขาลงได้พ้น”
โดยปกติแล้วในช่วงตลาดขาลง กลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นมักจะพูดถึงการ “รอ” หรือการอยู่เฉยๆ เพื่อหาจังหวะเข้าซื้อลงทุนใหม่เมื่อราคากลับเข้าสู่ตลาดขาขึ้นอีกครั้ง ซึ่งหลายครั้งอาจจะกินเวลาหลายสัปดาห์หรืออาจจะหลายเดือน แต่ทราบไหมครับว่าปัจจุบันเรามีเครื่องมือที่หลากหลายมากขึ้น ที่สามารถทำให้ผู้ลงทุนสามารถสร้างโอกาสในการทำกำไรในตลาดขาลงได้ อย่างเช่นสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures contract) หรือตราสารสิทธิในการซื้อ/ขาย (Options contract) ซึ่งวันนี้เราจะมาเจาะกลยุทธ์ในการทำกำไรตลาดขาลงด้วย Long Put Options กัน
Long Put Options คืออะไร?
Long = ซื้อ
Put Options = สัญญาสิทธิในการขาย
ดังนั้น Long Put Options คือการซื้อสัญญาสิทธิในการขาย ทำให้ผู้ลงทุนมีสิทธิขายสินทรัพย์อ้างอิงได้ตามราคาใช้สิทธิ (exercise price) เสมอ ดังนั้นถ้าสินทรัพย์อ้างอิงมีราคาที่ปรับตัวลงจนต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ (exercise price) จะทำให้ผู้ลงทุนสามารถสร้างกำไรด้วยการขายในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด ตามสัญญาสิทธิที่ครองอยู่นั่นเอง
ตัวอย่างการลงทุน
ซื้อ S50U21P900 หรือสัญญาสิทธิในการขาย SET50 Index ที่มีราคาใช้สิทธิ 900 จุด (exercise price) หมดอายุเดือนกันยายน 2021 โดยจ่ายค่า premium เพื่อเปิดสถานะเท่ากับ 13.5 จุด และสมมุติว่าตลาดหุ้นไทยเป็นขาลงจริง ผู้ลงทุนจะสามารถสร้างกำไรได้ 2 กรณีดังนี้
สมมุติถ้าวันครบอายุในเดือนกันยายนดัชนี SET50 ลงไปอยู่ที่ระดับ 870 จุด ผู้ลงทุนจะได้กำไรจากการนำราคาใช้สิทธิ “ลบ” ด้วยดัชนีปัจจุบันและหักออกด้วยค่า premium ที่จ่ายไป หากเราจ่ายค่า premium ในการซื้อไป 13.5 จุด จะคำนวณได้ดังนี้ [(900 – 870) - 13.5] = 16.5 จุด หรือมีกำไรเท่ากับ 16.5 x 200 = 3,300 บาทต่อสัญญา
ผู้ลงทุนสามารถปิดสถานะด้วยการ “Short” ตราสารสิทธิในการขายหรือ put options ที่เราถืออยู่ได้ จากตัวอย่างข้างต้นเมื่อเปิดสถานะซื้อ S50U21P900 แล้วตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมาจริง ส่งผลให้ดัชนีปัจจุบันใกล้เคียงกับราคาใช้สิทธิหรือต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ ตรงนี้อาจจะทำให้ค่า premium ปรับตัวสูงขึ้น สมมติว่าถ้าค่า premium ขึ้นไปถึง 18 จุด เมื่อผู้ลงทุนปิดสถานะ กำไรจะเท่ากับส่วนต่างของค่า premium ที่ได้จากการขาย - ค่า premium ที่จ่ายไปก่อน คำนวณได้เท่ากับ (18.0 - 13.5) = 4.5 จุด หรือเท่ากับกำไร 4.5 x 200 = 900 บาทต่อสัญญานั่นเอง
นี่เป็นเพียงเทคนิคเพิ่มโอกาสทำกำไรง่ายๆ ในช่วงตลาดขาลงผ่านสัญญา SET50 Index Options เพียงเท่านี้ผู้ลงทุนก็สามารถสร้างกลยุทธ์การลงทุนในตลาดที่หลากหลายและสามารถสร้างโอกาสในการทำกำไรได้ทุกสภาวะตลาดอีกด้วย
ดูรายละเอียดสินค้าใน SET50 Options เพิ่มเติมได้ที่
คอร์ดเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Options ฟรี!
หลักสูตร SET50 Options ฉบับมือใหม่ทั้งหมดได้ที่
หลักสูตร Options First Class ได้ที่
Options Workshop From Home ได้ที่