ทำไมสัญญาล่วงหน้ายาง มักอิงยางแผ่น

          เคยสงสัยไหมครับว่าทำไมสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีสินทรัพย์อ้างอิงคือยาง มักจะไปอ้างอิงกับ “ยางแผ่นรมควันชั้น 3” ทำไมต้องยางแผ่น? ไม่เอายางแท่ง หรือน้ำยาง และถ้าใช้ยางแผ่น ทำไมต้องชั้น 3 ไม่เอาชั้น 1,2,4 หรือ 5 สำหรับท่านที่อยู่ในอุตสาหกรรมยางประเด็นนี้คงทราบกันดีอยู่แล้ว แต่สำหรับท่านที่ยังไม่ทราบ...ตามมาครับ

          ยาง ที่เราเห็นเกษตรกรสวนยางทำกันในภาคใต้และภาคตะวันออกนั้น ปกติแล้วการนำยางไปขายในช่วงต้นหรือกลางน้ำมักจะออกไปใน 3 รูปแบบคือ น้ำยางดิบ, ยางแท่ง และยางแผ่น ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมและการผลิตที่แตกต่างกันออกไป

น้ำยาง (Latex)

          คือน้ำยางที่ได้มาจากการกรีดยางออกจากต้น ซึ่งส่วนมากแล้วเมื่อเกษตรกรกรีดได้น้ำยางมาก็มักจะนำไปแปรรูปเป็นยางแผ่น เพราะจะเก็บรักษาได้นานขึ้นและนำไปใช้ในอุตสาหกรรมปลายทางที่มีอุปสงค์สูงและราคาดี โดยสินค้าที่แปรรูปจากน้ำยางหลักๆ คือ ลูกโป่ง ถุงยางอนามัย ถุงมือยาง และกลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์

          ซึ่งน้ำยางที่ได้มานั้นไม่ได้ใช้ประโยชน์ในการผลิตได้ทั้งหมด ผู้ซื้อจะประเมินราคาจากส่วนที่เรียกว่า Dry Rubber Content (DRC) หรือส่วนที่เป็นเนื้อยาง (Rubber Hydrocarbon) ซึ่งโดยเฉลี่ยจะมีประมาณ 35% จากปริมาณน้ำยางทั้งหมด (ปริมาณมากน้อยขึ้นอยู่กับอายุของต้นยาง) ส่วนที่เหลือจะเป็นส่วนที่เป็นน้ำ (Watery) และส่วนที่เป็นของแข็งอื่นที่ไม่ใช่ยาง (Non-rubber-solid)

ยางแท่ง

          สำหรับยางแท่งใช้วัตถุดิบในการผลิต 2 แบบคือ การใช้น้ำยางสด และการใช้ยางแห้ง ซึ่งส่วนใหญ่ในประเทศไทยใช้ยางแห้ง โดยใช้ยางก้อนถ้วยและเศษยางธรรมชาติ นำมาผ่านเครื่องเครฟ ย่อยเป็นเม็ดเล็กๆ อบแห้งและอัดเป็นแท่ง ซึ่งจะมีความปนเปื้อนสูงกว่ายางแผ่น

ยางแผ่นรมควัน

          สุดท้ายคือยางแผ่นรมควัน คือการนำน้ำยางมาผ่านกระบวนการผลิตให้จับตัวเป็นก้อน จนเกิดเป็นแผ่น จากนั้นนำไปรมควัน แล้วนำมาเรียงรวมเป็นก้อน น้ำหนักก้อนละ 111.11 กิโลกรัม มีเกณฑ์มาตรฐาน 5 ชั้น โดยพิจารณาจากความชื้น, ความปนเปื้อน และความสม่ำเสมอของสี

ยางแผ่นรมควันชั้น 1 : ยางแผ่นคุณภาพดี ความชื้นไม่เกิน 3% ยืดหยุ่นดี เนื้อยางแห้งใส สีสม่ำเสมอตลอดทั้งแผ่น สีคล้ำ โปร่งแสง พอสมควร
ยางแผ่นรมควันชั้น 2 : ความชื้นระหว่าง 3 - 5% ยืดหยุ่นดี เนื้อยางแห้งใส สีคล้ำ ไม่โปร่งแสง
ยางแผ่นรมควันชั้น 3 : ความชื้นระหว่าง 5 - 7% ยืดหยุ่นดี เนื้อยางแห้งใส สีคล้ำหรือด่างดำไม่โปร่งแสง (ซึ่งเป็นมาตรฐานอ้างอิงของยางแผ่นประเทศไทย)
ยางแผ่นรมควันชั้น 4 : ความชื้นระหว่าง 7 - 10% ยืดหยุ่นดี เนื้อยางแห้งใส สีคล้ำหรือด่างดำไม่โปร่งแสง
ยางแผ่นรมควันชั้น 5 : ความชื้นระหว่าง 10 - 15% ยืดหยุ่นดี เนื้อยางแห้งใส สีคล้ำหรือด่างดำไม่โปร่งแสง
 

          โดยยางแผ่นรมควันนั้นถูกใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตสินค้าหลักๆ หลายอย่าง เช่น ยางล้อรถยนต์, สายพาน, ท่อน้ำ, รองเท้า และอะไหล่รถยนต์ เป็นต้น โดยมักจะใช้แผ่นยางเกรดตั้งแต่ชั้น 1 ถึง ชั้น 3 ในการผลิตสินค้าต่างๆ ดังนั้นยางแผ่นรมควันชั้น 3 จึงถูกใช้เป็นมาตรฐานในการอ้างอิงราคายางนั่นเอง ด้วยสินค้าปลายทางที่ผลิตออกมาเป็นตลาดใหญ่ ใช้งานอย่างแพร่หลาย และถูกใช้เป็นมาตรฐานอ้างอิงในการซื้อขายของตลาดยาง จึงเหมาะแก่การใช้เป็นมาตรฐานอ้างอิงให้กับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ที่สำคัญตลาด TOCOM ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าในเอเชีย ก็อ้างอิงราคายางกับยางแผ่นรมควันชั้น 3 เช่นกัน
 

          ด้วยประการทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นจึงเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้ยางแผ่นรมควันชั้น 3 เป็นสินค้าอ้างอิงกับสัญญาซื้อขายล่วงหน้ายาง ปัจจุบันเพื่อให้สะดวกและสอดคล้องกับตลาดสำคัญอย่าง TOCOM ทาง TFEX เปิดให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ในตลาด TOCOM ในชื่อ Japanese Rubber Futures แล้ว

ดูรายละเอียดสินค้าใน Japanese Rubber Futures เพิ่มเติมได้ที่
ทำความรู้จักกับสินค้า Japanese Rubber Futures เพิ่มเติมได้ที่