TFEX
5 Min Read

รู้ทันก่อนใคร Futures และ Options สภาวะตลาดแบบไหน สินค้าใดได้เปรียบ

by TFEX
50.รู้ทันก่อนใคร Futures และ Options สภาวะตลาดแบบไหน สินค้าใดได้เปรียบ

บทความในตอนที่แล้วเรารู้ถึงความเหมือนและความแตกต่างของสัญญา SET50 Futures และ SET50 Options กันไปเรียบร้อยแล้ว วันนี้เรามาลองคำนวณโอกาสในการทำกำไร และความเสี่ยงในสถานการณ์ต่างๆกันว่า สินค้าไหนจะได้เปรียบ เพื่อเป็นทางเลือกก่อนการตัดสินใจลงทุน พร้อมแล้วไปดูกันเลย

ซึ่งเราจะคำนวณราคาของ Futures & Options โดยอ้างอิงราคาจริง ณ วันที่ 21 มกราคม 2020 ด้วยโปรแกรมคำนวณราคาที่อยู่บนเว็บไซต์ TFEX ( Options Calculatorlinkout ) โดยราคาที่ได้เป็นราคาทางทฤษฏี ซึงอาจแตกต่างจากราคาซื้อขายจริง แต่สามารถอ้างอิงอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาได้

กำหนดให้ดัชนีเริ่มต้นอยู่ที่ 1,075

1. ถ้าตลาดมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นแรง เช่น +25 จุด

          Long SET50 Futures
          คุณจะได้กำไรจุดละ 200 บาท หรือจะมีกำไรประมาณ 25*200 = 5,000 บาท

          Long Call Options (ITM=1050)
          Premium 33.99 -> 52.45 หรือมีกำไรประมาณ 18.46*200 = 3,692 บาท

          Long Call Options (ATM=1075)
          Premium 20.09 -> 34.40 หรือมีกำไรประมาณ 14.31*200 = 2,862 บาท

          Long Call Options (OTM=1100)
          Premium 10.65 -> 20.56 หรือมีกำไรประมาณ 9.91*200 = 1,982 บาท

สรุป

  • ถ้ามองเฉพาะกำไร Long Futures มีกำไรมากสุด เพราะวางเงินประมาณ 15,000 เราจะได้มา 5,000 คิดเป็น 33%
  • ถ้ามองอัตราผลตอบแทน Long Call Options (OTM=1,100) ให้อัตรากำไรมากสุด เพราะ OTM มีค่าพรีเมี่ยม 10.65 จุด (ผู้ซื้อต้องจ่ายเงินค่าซื้อสิทธิ 10.65*200 = 2,130) ได้มา 1,982 คิดเป็น 93%
  • ถ้ามองความเสี่ยง Long Futures หากดัชนีลดลงจะขาดทุนจุดละ 200 บาททันที แต่ถ้า Long Call Options ราคาจะลดลงในอัตราที่น้อยกว่า และไม่ได้มีภาระผูกพัน คือเสียมากสุดก็แค่ค่าพรีเมี่ยมที่จ่ายไป
  • ถ้าเปิดสถานะผิดฝั่งจาก Long เป็น Short คุณจะขาดทุนในอัตราที่เท่ากัน

    หมายเหตุ (เราสามารถคำนวณการเปลี่ยนแปลงราคาออปชั่นคร่าวๆได้จากค่า Delta เช่นกรณี Long Call 1,075 มี Delta 0.56 => 0.56*25*200 = 2,800 บาท)

2. ถ้าตลาดมีแนวโน้มเป็นขาลงแรง เช่น –25 จุด

          Short SET50 Futures
          คุณจะได้กำไรจุดละ 200 บาท หรือจะมีกำไรประมาณ 25*200 = 5,000 บาท

          Long Put Options (ITM=1100)
          Premium 38.86 -> 23.89 หรือมีกำไรประมาณ 14.97*200 = 2,994 บาท

          Long Put Options (ATM=1075)

          Premium 23.35 -> 12.80 หรือมีกำไรประมาณ 10.55*200 = 2,110 บาท

          Long Put Options (OTM=1050)
          Premium 12.32 -> 5.90 หรือมีกำไรประมาณ 6.42*200 = 1,284 บาท

สรุป

  • ถ้ามองเฉพาะกำไร Short Futures มีกำไรมากสุด เพราะวางเงินประมาณ 15,000 ได้มา 5,000 คิดเป็น 33%
  • ถ้ามองอัตราผลตอบแทน Long Put Options (OTM=1,050) ให้อัตรากำไรมากสุด เพราะ OTM มีค่าพรีเมี่ยม 12.32 จุด (ผู้ซื้อต้องจ่ายเงินค่าซื้อสิทธิ 12.32*200 = 2,464) ได้มา 1,284 คิดเป็น 52%
  • ถ้ามองความเสี่ยง Short Futures หากดัชนีเพิ่มขึ้นจะขาดทุนจุดละ 200 บาททันที แต่ Long Put Options ราคาจะลดลงในอัตราที่น้อยกว่า และไม่ได้มีภาระผูกพัน หมายความว่าเสียมากสุดแค่ค่าพรีเมี่ยมที่จ่ายไป
  • ถ้าเปิดสถานะผิดฝั่งจาก Short เป็น Long คุณจะขาดทุนในอัตราที่เท่ากัน

หมายเหตุ (เราสามารถคำนวณการเปลี่ยนแปลงราคาออปชั่นคร่าวๆได้จากค่า Delta เช่นกรณี Long Put 1,075 มี Delta 0.44 => 0.44*25*200 = 2,200 บาท)

3. แนวโน้มตลาดไซด์เวย์ที่ระดับ 1,060 – 1,090

ราคาบริเวณแนวรับ 1,060
-เปิดสถานะ
Long SET50 Futures
Long SET50 Call Options
Short SET50 Put Options
- ปิดสถานะเมื่อกำไรได้ตามเป้าหมายหรือถึงแนวต้าน

ราคาบริเวณแนวต้าน 1,090
- เปิดสถานะ
Short SET50 Futures
Long SET50 Put Options
Short SET50 Call Options
- ปิดสถานะเมื่อกำไรได้ตามเป้าหมายหรือถึงแนวต้าน

สรุป

  • ถ้ากรอบไซด์เวย์กว้างพอ การ Long Futures ที่แนวรับ + Short Futures ที่แนวต้าน อาจทำกำไรได้มากและได้หลายรอบ แต่ถ้ากรอบไซด์เวย์แคบอาจลงทุนไม่ได้
  • ถ้าระยะเวลาเหลือนานการ Short Options ก็จะมีความเสี่ยงสูง เพราะอาจมีเหตุการณ์ที่ทำให้ดัชนีเปลี่ยนเป็นมีแนวโน้มได้ แต่ถ้าระยะเวลาเหลือน้อยความเสี่ยงจะต่ำลง เพราะจะคาดการณ์ตลาดได้ง่ายกว่า
     
ข้อควรรู้
  • ช่วงสัญญาใกล้วันหมดอายุ ราคาจะมีความผันผวนมาก และผู้ซื้อผู้ขายอาจมีไม่มากทำให้ราคาอาจไม่ได้เป็นไปตามทฤษฏี
  • ราคา Options อาจไม่วิ่งแรงเท่าทฤษฏี เนื่องจากผู้ซื้อ (Demand) และผู้ขาย (Supply) มีความคาดหวังการแกว่งตัวของดัชนีไม่เท่ากัน ยิ่ง Options ที่มีสภาพคล่องน้อย ราคาอาจแกว่งออกจากทฤษฏีได้มาก
  • Options นอกจากเทรดเก็งกำไรทิศทาง สามารถใช้ร่วมกันทั้ง Long และ Short เพื่อวางเป็นกลยุทธ์ได้ ซึ่งบางกลยุทธ์จะให้อัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้น บางกลยุทธ์ทำให้ความเสี่ยงลดลง หรือจะใช้ร่วมกับ Futures ก็ได้



ดูรายละเอียดสินค้า SET50 Options เพิ่มเติมได้ที่ linkout

ดูรายละเอียดสินค้า SET50 Futures เพิ่มเติมได้ที่ linkout

คอร์ดเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SET50 Futures และ SET50 Options ฟรี!     

สัมมนา เทรด SET50 Futures อย่างมั่นใจ จับจังหวะ ทำกำไรในตลาดอนุพันธ์linkout 
หลักสูตร SET50 Options ฉบับมือใหม่ทั้งหมดได้ที่linkout 
หลักสูตร Options First Classlinkout 


บทความที่เกี่ยวข้อง