กรุงเทพธุรกิจ : Future World พฤษภาคม 2563
รินใจ ชาครพิพัฒน์
กรรมการผู้จัดการ บมจ. ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย)
จากภาวการณ์ความผันผวนและปรับตัวลดลงรุนแรงของตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมา ผู้ลงทุนที่มีพอร์ตหุ้นอยู่อาจต้องพบกับภาวะขาดทุน ในขณะที่หลายท่าน (ที่ยังมีเงิน) อาจใช้เป็นโอกาสในการเลือกลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานในราคาต่ำ หรือผู้ที่ยังไม่เคยลงทุนก็อาจใช้เป็นโอกาสในการเริ่มลงทุน ซึ่งสำหรับผู้มีเงินลงทุนไม่มากหรือไม่ต้องการจะนำเงินมาซื้อหุ้นในครั้งเดียว การลงทุนหุ้นแบบ DCA เพื่อทยอยลงทุนในหุ้นนับเป็นทางเลือกหนึ่ง ซึ่งในภาวะตลาดเช่นนี้ หลายท่านอาจมีคำถามว่าแนวคิด DCA เหมาะกับภาวะตลาดขาลงหรือไม่ หากที่ผ่านมาใช้ DCA อยู่ ควรจะปรับวิธีลงทุนหรือไม่อย่างไร และควรใช้ DCA อย่างไรจึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
การลงทุนแบบ DCA (dollar-cost average) คือ การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุนโดยกำหนดมูลค่าการลงทุนเป็นงวดๆ งวดละเท่าๆ กัน เช่น ลงทุน 1,000 บาทในทุกๆ สัปดาห์ โดยไม่สนใจว่าราคาหุ้นหรือกองทุนรวมจะเพิ่มหรือลดอย่างไร หากราคาปรับตัวลดลง ก็จะทำให้ซื้อหุ้นได้จำนวนมากขึ้น แต่หากราคาปรับเพิ่มขึ้นก็จะทำให้ซื้อหุ้นได้ในจำนวนลดลง ผู้ลงทุนไม่ต้องคอยลุ้นว่าราคาขึ้นลงเมื่อไร เป็นการลดภาระในการติดตามข่าวสารและราคา ทำให้ผู้ลงทุนสามารถสร้างวินัยในการลงทุนเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระยะยาว
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ดัชนี SET Index เคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,300 – 1,800 จุด ก่อนจะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 1,200 – 1,300 จุดในปัจจุบัน ผู้ลงทุนที่ใช้วิธี DCA ในการสะสมหุ้นหรือกองทุนหุ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจึงมีผลขาดทุนในพอร์ตลงทุน และอาจมีความกังวลว่าราคาหุ้นอาจจะลดลงอีก ควรหยุดการ DCA ไว้ชั่วคราวหรือไม่ ในส่วนนี้ อยากเน้นว่าหัวใจของการ DCA คือการสร้างวินัยลงทุนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในระยะยาว โดยทยอยลงทุนไปเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะมีช่วงทั้งหุ้นแพงและหุ้นถูก ต้นทุนรวมของการทำ DCA จะเป็นราคาเฉลี่ยตลอดช่วงการลงทุน ในภาวะที่หุ้นตกจึงเป็นโอกาสที่จะทำให้ได้ต้นทุนเฉลี่ยที่ต่ำลง อันจะส่งผลดีต่อการลงทุนระยะยาว การหยุด DCA ในช่วงที่หุ้นราคาถูกจะทำให้ต้นทุนรวมในระยะยาวไม่ลดลง และอาจไม่ตรงกับเป้าหมายการลงทุนที่ตั้งไว้ ดังนั้น ในช่วงตลาดขาลง ผู้ลงทุนจึงยังควรทำ DCA อย่างต่อเนื่อง
อย่าลืมว่าการทำ DCA เป็นการตัดการใช้อารมณ์ในการลงทุน โดยทั่วไปแล้วตลาดหุ้นขาลงมีหลายระยะ ตั้งแต่ ช่วงที่ราคาเริ่มลดลง ซึ่งมักจะยังมีแรงซื้อเข้ามาเพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุน และต่อมาแรงซื้อเริ่มลดลง ราคาหุ้นจะลดลงถึงจุดต่ำสุด ซึ่งอาจมีผู้ลงทุนที่ตัดใจขายขาดทุนและออกจากตลาด ต่อมาเมื่อราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัวขึ้น ก็จะยังมีแรงซื้อไม่มากนักเพราะอาจเชื่อว่าหุ้นยังไม่ผ่านจุดต่ำสุดไป ก่อนที่จะปรับตัวขึ้น ซึ่งยากที่จะมีผู้คาดการณ์ว่าหุ้นอยู่ในช่วงไหนได้ถูกต้อง หรือบอกได้ว่าราคาถึงจุดต่ำสุดแล้วหรือยัง การซื้อหุ้นแบบ DCA จึงตัดอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งช่วยลดการตัดสินใจแบบไม่สมเหตุสมผลและช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถเดินตามแผนการลงทุนที่วางไว้ได้ง่ายยิ่งขึ้น
แม้ว่าการทำ DCA จะเป็นการลงทุนที่มีแบบแผนชัดเจนและตายตัว แต่สิ่งที่ควรคำนึงอีกปัจจัยสำคัญคือ การเลือกหุ้นที่จะทำ DCA ที่เหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนของตนเอง ดังนั้น ผู้ลงทุนยังควรต้องมีการวิเคราะห์เลือกหุ้น และทบทวนว่าหุ้นที่อยู่ใน DCA List ของท่านมีความแข็งแกร่งเพียงพอและเหมาะสมการเปลี่ยนแปลงของสภาวะการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังวิกฤตการณ์ที่อาจทำให้สภาวะการลงทุนหรือปัจจัยพื้นฐานของหุ้นที่ได้เลือกไว้เปลี่ยนแปลงไป โดยผู้ลงทุนอาจพิจารณาเปลี่ยนการทำ DCA จากในหุ้นที่ได้รับผลกระทบรุนแรงและยากต่อการฟื้นตัวหลังวิกฤติ เป็นหุ้นที่ยังมีความแข็งแกร่งหรือมีโอกาสเติบโตในสภาพแวดล้อมหลังวิกฤตการณ์ เช่น อาจเลือกลงทุนในหุ้นประเภท Defensive Stock หุ้นปัจจัยพื้นฐานที่มักจะมีรายได้คงที่แม้ว่าเศรษฐกิจจะเป็นขาลง หรือหุ้นที่ได้รับผลดีจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคหลังเกิดวิกฤติ นอกจากนี้ ควรใช้แนวคิดการกระจายความเสี่ยงเข้ามาร่วมในการจัดสรรพอร์ตลงทุน เพราะการ DCA ในหุ้นเพียงไม่กี่ตัวจะทำให้พอร์ตลงทุนมีความเสี่ยงสูงในกรณีที่ตลาดปรับตัวลดลงรุนแรง สำหรับผู้ลงทุนที่ไม่มีเวลาวิเคราะห์เลือกหุ้นอาจเลือก DCA ด้วยกองทุนรวม เนื่องจากมีผู้จัดการกองทุนทำหน้าที่คัดสรรหุ้นที่เหมาะกับการลงทุนในแต่ละช่วงเวลา และยังมีการกระจายความเสี่ยงไปลงทุนในหุ้นหลายตัวในหลายอุตสาหกรรม
ในช่วงวิกฤตการณ์เป็นช่วงที่ราคาหุ้นและสินทรัพย์ต่างๆ ปรับตัวลดลงมาก จึงอาจเป็นโอกาสในการลงทุนผู้ที่มีสภาพคล่องและมีเงินทุนสำหรับการลงทุนระยะยาว ซึ่ง DCA นับเป็นก้าวแรกในการลงทุนที่เหมาะกับผู้ลงทุนมือใหม่และยังไม่พร้อมวิเคราะห์หาจังหวะการลงทุนด้วยตนเอง นอกจากนี้ DCA ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือออมเงินสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มทำงานในการเก็บเงินสำหรับใช้ในระยะยาว ในปัจจุบันมีโบรกเกอร์และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมหลายแห่งที่มีโปรแกรม DCA เพื่อช่วยในการลงทุนอัตโนมัติให้การลงทุนแบบ DCA สามารถทำได้อย่างสะดวก ซึ่งผู้ให้บริการแต่ละรายเหล่านี้อาจมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันทั้งในเรื่องเงินขั้นต่ำ ระยะเวลา และหลายแห่งยังมีบริการเปิดบัญชีลงทุนแบบออนไลน์เพื่อความสะดวกรวดเร็วอีกด้วย ซึ่งผู้ลงทุนที่สนใจเริ่มลงทุนแบบ DCA สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.set.or.th/th/investnow/openaccount.html
ดูรายละเอียดสินค้าใน Single Stock Futures เพิ่มเติมได้ที่