TFEX
5 Min Read

เทคนิคกระจายความเสี่ยงพอร์ตลงทุน

by TFEX
เทคนิคกระจายความเสี่ยงพอร์ตลงทุน

          ผู้ลงทุนที่ซื้อขายใน TFEX และมีการซื้อขาย Futures หรือ Options ที่อ้างอิงกับราคาสินค้าหลายตัว อาจจะเข้าใจว่าการซื้อขายสินค้าหลายๆ ตัวก็ถือว่าเป็นการกระจายความเสี่ยงแล้ว แต่ในความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะซื้อขายสินค้าหลายตัวแต่อาจยังไม่ใช่การกระจายความเสี่ยง แต่เป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้มากขึ้น เรามาดูกันครับว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น การจะดูว่าเรามีการกระจายความเสี่ยงในการซื้อขายหรือไม่ จะดูว่าสินค้าค้าที่เราซื้อขายมีความสัมพันธ์ของราคาหรือผลตอบแทนไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ สามารถพิจารณาได้จากค่า “สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์” หรือ Correlation Coefficient ซึ่งเป็นตัวเลขที่บอกว่าตัวแปร 2 ตัวมีความสัมพันธ์กันทางสถิติอย่างไร โดยค่าที่คำนวณได้จะอยู่ระหว่าง -1 ถึง 1 ค่า Correlation ที่คำนวณได้เท่ากับ 1 หมายความว่า ราคาหรือผลตอบแทนของสินค้าทั้ง 2 ตัวที่พิจารณามีความสัมพันธ์กันมากแบบไปในทิศทางเดียวกัน ขึ้นก็ขึ้นเหมือนกัน ลงก็ลงเหมือนกัน เช่น หุ้น A +0.7% หุ้น B+0.8% ค่า Correlation เท่ากับ -1 หมายความว่า มีความสัมพันธ์กันมากแต่เป็นในทิศทางตรงข้าม ตัวนึงขึ้น ตัวนึงลง เช่น หุ้น A +0.7% หุ้น C -0.6% ส่วนค่า Correlation ที่ใกล้เคียงกัน 0 หมายความว่าไม่มีความสัมพันธ์กันหรือมีความสัมพันธ์กันน้อย เช่น หุ้น A +0.7% หุ้น D +0.1%

          *หมายเหตุ เราสามารถคำนวณหาค่า Correlation Coefficient ได้จากการแทนค่าในสูตร Excel หรือง่ายกว่านั้น สอบถามจากผู้แนะนำการลงทุน IC โบรเกอร์ฯ ของท่านได้เลย ซึ่งถ้าดูจากปริมาณการซื้อขายของสินค้าต่างๆ ใน TFEX จะพบว่า ผู้ลงทุนส่วนใหญ่ที่เข้ามาซื้อขายใน TFEX เข้ามาซื้อขาย SET50 Index Futures และ Single Stock Futures (สินค้าอ้างอิงอยู่ในกลุ่ม SET100) สินค้าอ้างอิงที่อยู่ในกลุ่มของ Equity ส่วนใหญ่มักจะมีราคาเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน (Correlation Coefficient เป็นบวกและมีค่ามาก) จึงทำให้แม้ว่าจะซื้อขายสินค้าหลายๆ ตัว แต่ผลตอบแทนหรือผลการซื้อขายที่เกิดขึ้นมักออกมาในทิศทางเดียวกัน ซึ่งถ้ามองในรูปของพอร์ตโดยรวมแล้ว ถือว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยง ไม่ใช่การกระจายความเสี่ยง ในขณะที่ ทองคำนับเป็นสินทรัพย์ประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยม และถูกแนะนำให้มีอยู่ในพอร์ตเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง เนื่องจากค่า Correlation Coefficient ของทองคำกับดัชนี SET หรือ ทองคำกับดัชนี SET50 ที่คำนวณ 5 ปีย้อนหลัง จะอยู่ที่ประมาณ 0.50 ซึ่งพอจะสรุปได้ว่า ราคาหรือผลตอบแทนจากการซื้อขายทองคำ มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับดัชนีหุ้นไทย แต่มีความสัมพันธ์กันไม่มาก

          สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจการกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในทองคำ ในตลาด TFEX ก็มีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำอยู่ด้วย โดยสินค้าที่มีสภาพคล่องสูงเป็นอันดับหนึ่งและสองคือ Gold Online Futures และ 10Baht Gold Futures ตามลำดับ


          โดยสรุปแล้ว หากผู้ลงทุนรู้สึกว่าผลตอบแทนของพอร์ตมีความสัมพันธ์กันมากเกินไป เวลาหุ้นตกที พอร์ตจะแดงมากแทบทุกตัว อาจพิจารณาเลือกกระจายความเสี่ยงไปยังสินค้าอื่นๆ ที่มีค่า Correlation ติดลบ หรือในระดับที่ไม่สูงมาก เพื่อสร้างโอกาสในการซื้อขายและทำกำไรเวลาตลาดหุ้นไซด์เวย์หรือมีทิศทางที่ไม่ชัดเจน

ดูรายละเอียดสินค้าใน TFEX เพิ่มเติมได้ที่นี่ linkout


บทความที่เกี่ยวข้อง