เตรียมพร้อมก่อนเปิดสถานะซื้อ (Long)
เป้าหมายเพื่อสร้างโอกาสทำกำไรจากราคาทองขาขึ้น
- กราฟราคาทองคำ หรือ Indicator ที่ใช้ส่งสัญญาณเป็นขาขึ้น >> เช่น ราคากำลังยก High ยก Low ใน Timeframe ใหญ่ หรือมีสัญญาณราคาตัดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยราคาในอดีต
- มีข่าวหรือปัจจัยที่สนับสนุนการปรับตัวขึ้นของราคาในอนาคต >> เช็คว่าข่าวหรือปัจจัยจะมีผลบวกในระยะเวลาที่จะตัดสินใจถือสัญญา
- มีบัญชีอนุพันธ์เรียบร้อย และเข้าใจวิธีส่งคำสั่งและกลไกการลงทุน >> รู้จักชื่อย่อสัญญาที่จะเปิดสถานะ รู้ว่าต้องส่งคำสั่ง Long Open รู้ว่าต้องวางเงินมาร์จิ้นเท่าไหร่ และรู้ว่าเมื่อเปิดสถานะแล้วราคาเคลื่อนไหวปุ๊ปเกิดกำไรขาดทุนทันที Mark-to-Market
- มีแผนการลงทุนที่ชัดเจนว่าจะใช้ Leverage เท่าไหร่ >> เช่น ต้องการการอัตราทด 2 เท่า, 3 เท่าหรือ 5 เท่า โดยพิจารณาว่าทองคำจะผันผวนสูงแค่ไหนในระยะเวลาที่ถือ
- มีระดับความเสี่ยงขาดทุนสูงสุดที่ราคาเท่าไหร่ คิดเป็นกี่บาท แล้วทำไมจุดนี้จึงควรเป็นจุดตัดขาดทุน >> เช่น ยอมตัดขาดทุนเมื่อราคาต่ำกว่าที่เปิดสถานะคิดเป็นเงิน -3,000 บาท โดยหากเป็น Gold Futures ก็คือราคาลดลง 30 บาท แต่หากเป็น Gold Online Futures ก็คือราคาลดลง 10$ เพราะระดับราคาหลุดแนวรับสำคัญ ทำ low ใหม่ หรือ Indicator ส่งสัญญาณขาย
- มีจุดเข้าเปิดสถานะที่ราคาเท่าไหร่ เพราะอะไรจึงควรเป็นจุดเข้าในครั้งนี้ >> เช่น เป็นจุดที่ราคาลงมาทดสอบแนวรับสำคัญหรือทดสอบ low แล้วเด้งขึ้น (ไม่หลุด) หรือเป็นจุดที่ Indicator ส่งสัญญาณซื้อ
- มีจุดขายทำกำไรที่ชัดเจนว่าราคามีโอกาสขึ้นไปที่ระดับเท่าไหร่ แล้วเพราะอะไรจึงมีโอกาสไปถึง >> เช่น ราคากำลังเป็นขาขึ้นทดสอบ High เดิม พร้อมปัจจัยค่าเงินดอลลาร์อ่อน หรือใกล้เทศกาลที่มีความต้องการทองคำสูง หรือกำลังมีข่าวความขัดแย้งทางการเมืองที่สำคัญกำลังบานปลาย
- มีอัตรา RRR: Risk Reward Ratio เป็นเท่าไหร่ คุ้มค่าต่อการเข้าลงทุนในครั้งนี้หรือไม่
>> กรณีที่ 1 สมมุติให้ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1,700$ มองจุดเข้าที่ 1690$ และกำหนดจุดตัดขาดทุน 1,680$ หากมองสถานการณ์แล้วทองมีโอกาสไปทำ High ที่ 1,725 แปลว่า Risk 1,690-1,680 = 10$ และ Reward 1,725 – 1,690 = 35$ ดังนั้น RRR = 1:3.5 แบบนี้น่าสนใจ
>> กรณีที่ 2 สมมุติให้ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1,715$ มองจุดเข้าที่ 1,715$ กำหนดจุดตัดขาดทุน 1,700$ มองทองมีโอกาสไปที่ 1,725$ แปลว่า Risk 1,715-1,700 = 15$ และ Reward 1,725-1,715 = 10$ ดังนั้น RRR = 1:0.66 แบบนี้ไม่คุ้ม อาจต้องรอให้ราคาย่อลงมากกว่านี้ก่อน
กรณีค่าเงินบาทกำลังมีแนวโน้มอ่อนค่าด้วย Gold Futures จะขึ้นทั้งจากทองโลก และค่าเงินบาท ซึ่งจะได้เปรียบมากว่ากว่า Gold Online Futures / แต่กลับกัน ถ้าค่าเงินบาทกำลังมีแนวโน้มแข็งค่า Gold Futures ราคาอาจขึ้นได้น้อยเพราะค่าเงินบาทจะฉุดให้ราคาวิ่งได้ช้ากว่า Gold Online Futures
>> กรณีมี EE: Excess Equity มากกว่า 25,000-40,000 บาท เปิดสถานะ Long Gold Futures ได้สูงสุด 1 สัญญา (1 สัญญาวางเงินประมาณ 25,000 บาท คิดเป็น Leverage (อัตราทด) ≈ 10 เท่า ถ้าต้องการให้อัตราทดลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 5 เท่า ต้องมีเงินวางประมาณ 50,000 บาท เพื่อเปิด 1 สัญญา
>> กรณีมี EE: Excess Equity มากกว่า 40,000-50,000 บาท เปิดสถานะ Long Gold Online Futures ได้สูงสุด 1 สัญญา (1 สัญญาวางเงินประมาณ 40,000 บาท คิดเป็น leverage (อัตราทด) ≈ 12 เท่า ถ้าต้องการให้อัตราทดลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 5 เท่า ต้องมีเงินวางประมาณ 105,000 บาท เพื่อเปิด 1 สัญญา
คำแนะนำเพิ่มเติม
วินัยสำคัญมาก มีแผนแล้วต้องทำตามแผนอย่างเคร่งครัด ถ้าเข้าไม่ได้เพราะราคาไม่ถึงแปลว่า วิธีคิดจุดเข้าของเรายังไม่ดีพอ หรือหากเข้าไปแล้วโดน Stoploss ก็ต้องยอมตัดขาดทุน เพราะเราคาดการณ์ผิด หรือแค่ชน Stoploss แล้ววิ่งขึ้นต่อ แปลว่าเราวางกรอบความผันผวนของราคาไม่ดีพอ หรือหากเข้าไปแล้วไม่ถึงเป้าหมายสักที จนเลยระยะเวลาที่วางแผน แปลว่าสถานการณ์เริ่มมีบางอย่างไม่เป็นไปตามที่คาด เราอาจต้องพิจารณาปิดสถานะทำกำไร หรืออาจยก Stoploss ขึ้นเพื่อ Lock กำไร ทั้งนี้อย่าลืมว่าทุกการลงทุนควรจดบันทึกสถิติ แล้วเราจะได้เอาจุดอ่อนมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น และเก็บจุดแข็งของเราไว้ใช้คราวหน้า หากไม่มั่นใจควรปรึกษาผู้แนะนำการลงทุน หรือโบรกเกอร์ของท่าน ก่อนการตัดสินใจลงทุน