TFEX
5 Min Read

ภาพรวมกลยุทธ์ในการซื้อขายทองคำ Gold Future และน้องใหม่อย่าง Gold-D

by บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ต้องยอมรับว่าปริมาณความต้องการทองคําในตลาดโลกมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าจะสะดุดไปบ้างในช่วงหลายปีมานี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยเอื้ออํานวยมากนัก นอกจากนี้ยังมีปัจจัยน้ําท่วมในประเทศจีนมากระทบอีก ดังนั้นปริมาณความต้องการในด้าน Jewellery ที่มีสัดส่วนใหญ่ที่สุด ยังต้องการเวลาในการฟื้นตัว สอดคล้องกับปริมาณ ความต้องการในด้านการลงทุนที่ลดลง 34% yoy ในไตรมาส 2/60 หลักๆจาก ETF ทองคําที่ปรับลดลง 76% yoy อย่างไรก็ตามปริมาณความต้องการทองคําในส่วนของ ธนาคารกลางของประเทศต่างๆที่จะมีการนําทองคํามาเป็น Reserve ของประเทศยังคงเพิ่มขึ้น 20% yoy ในไตรมาส 2/60 โดยรวมเรายังคงมองว่าปริมาณความต้องการ ทองคําจะเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ขณะที่อุปทานตลาดโลก ยังคงอยู่ในระดับต่ํา โดยผลผลิตทองคําในไตรมาส 2/60 ออกมาอยู่ที่ 1,066 ตัน ลดลง 8% yoy โดยส่วนมากเกิดจากการลดลงของทองคํา Recycle สําหรับแนวโน้มผลผลิตทองคําน่าจะยังคงอยู่ในทิศทางลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากไม่มีแผนการเปิดเหมืองใหม่ในอีก 23 ปีข้างหน้า เห็นได้จากงบลงทุนที่อยู่ในระดับต่ํา ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดย Production level จะเริ่มปรับตัวลดลงในปี 2562 เป็นต้นไป
Gold Demand ในช่วง 1H17 เทียบกับ 1H16
Slower ETF inflows drive H1 weakness
ภาพรวมกลยุทธ์ในการซื้อขายทองคำ Gold Future และน้องใหม่อย่าง Gold-D2
   งบลงทุนของผู้ผลิตเหมืองทองคําอยู่ระดับต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ภาพรวมกลยุทธ์ในการซื้อขายทองคำ Gold Future และน้องใหม่อย่าง Gold-D1
Futures Hi-Light

แนวโน้มการลงทุน: เรามองว่าราคาทองคํา ณ ระดับนี้ (1,300 เหรียญฯต่อออนซ์) ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง ยังแนะนําให้รอย่อตัวก่อน ค่อยเข้าทยอยสะสมสถานะ Long โดยเฉพาะบริเวณ 1,250 เหรียญฯต่อออนซ์ โดยเชื่อว่าราคาทองคําน่าจะขึ้นไปทำจุดสูงสุดใน รอบ 3 ปี ที่ระดับ 1,375 เหรียญฯต่อออนซ์

ประเด็นการลงทุน: โดยรวมเรายังอยู่ข้าง Long เนื่องจากตามสถิติในช่วง 15 ปี ที่ผ่านมา การลงทุนซื้อทองคําในช่วงกลางปี แล้วไปขายปลายปี หรือเดือนก.พ. ของปีถัดไป ส่วนใหญ่จะได้ผลตอบแทนเป็นบวก ซึ่งช่วงปลายปี จนถึงต้นปี จะเป็นช่วงที่มีปริมาณความต้องการของทองคําสูงสุดของปี เริ่มจาก 1. ฤดูกาลแต่งงานของชาวอินเดีย ที่นิยมให้สินสอดกันเป็นทองคํารูปพรรณ และใช้เป็นเครื่องประดับสำหรับเจ้าบ่าวสาว (เริ่มต้นกลางเดือน พ.ย.) 2. เทศกาลดีวาลี (Diwali) ที่นิยมซื้อของกำนัลให้แก่คนในครอบครัวในประเทศอินเดีย (สิ้นเดือน ต.ค. - ต้นเดือน พ.ย.) และ 3. ยังมีเทศกาลสำคัญคือเทศกาลตรุษจีน (ช่วงปลายม.ค. – ต้นก.พ.) ที่เป็นช่วงปีใหม่ของประเทศจีน


กลยุทธ์และ Tips การลงทุน

TFEX Gold-Future
          แนวโน้มการลงทุน: เราแนะนําให้รอเปิดสถานะ Long ที่ระดับบริเวณ 19,900 บาท โดยแนะนํา Serie V (หมดอายุเดือนต.ค.) และ/หรือ Serie Z (หมดอายุเดือน ธ.ค.) เนื่องจากเป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับทองคํา และต้องอย่าลืมจุด Stop loss ด้วย ที่ระดับ 19,800 บาท ถ้าผลออกมาไม่ตามที่เราคาดไว้

TFEX Gold-D
          แนวโน้มการลงทุน: เหมือนกับ TFEX Future คือเน้นลงทุนสะสมให้ด้าน Long series Z ตอนย่อตัว ที่ระดับ 1,250 เหรียญฯต่อออนซ์ โดยจุด Stop loss อยู่ที่ 1,225 เหรียญต่อออนซ์ - จุดเด่นของการลงทุน Gold-D คือเป็นการลงทุนในทองคํา บริสุทธิ์ถึง 99.99% เป็นสกุลเงินดอลล่าร์ ดังนั้นค่าเงินบาทที่แข็ง ค่าจะไม่ทำให้มูลค่าของทองคําที่ได้รับลดลง นอกจากนี้ยังสามารถรับมอบ/ส่งมอบจริงเมื่อครบอายุสัญญา

 

ดูรายละเอียดสินค้า Gold Futures เพิ่มเติมได้ที่ linkout
ดูรายละเอียดสินค้า Gold-D เพิ่มเติมได้ที่ linkout


บทความที่เกี่ยวข้อง