วันนี้เราจะพาท่านผู้อ่านทุกท่านมาหาคําตอบของปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาทองคํา ปรับตัวเปลี่ยนแปลงเกิน 1% โดยมองย้อนไปเมื่อ 9 เดือนที่ผ่านมา ว่าในช่วง ดังกล่าวมีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ราคาทองคําเปลี่ยนแปลง และปัจจัยจะกลับมาใน อนาคตอีกครั้งหรือไม่ เราจะตอบคําถามดังกล่าวในบทความนี้
- 5 Jan ทองขึ้น +$17 ปิด $1,180 รับ Non-From สหรัฐฯลดลง ทำให้ Us Dollar อ่อน 1.09%
- 17 Jan ทองปรับขึ้น +$14 ปิด 1,217 รับประเด็น Brexit โดยนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษเริ่มกระบวนออกจากสหภาพยุโรป ทำให้มีการประเมินว่า การที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปจะไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโลก ส่งให้ สินทรัพย์ Safe Haven อย่างทองคําปรับขึ้น
- 18 Jan ปรับลงเรง -$13 ปิด $1,204 รับนางเยลเลน กดราคาทองคําซึ่งระบุ ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ นําโดยการจ้างงาน และอัตราเงินเฟ้อที่เข้าใกล้ 2% ส่งค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐฯบวกกือบ 1%
- 26 Jan ลง - $12 ปิด $1,188 เพราะเม็ดเงินไหลออกจากทองคํา เนื่องจาก ดัชนีดาวโจนส์ปรับขึ้นเหนือ 20,000 จุด สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังทรัมป์มีแผน กระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
- 31 Jan ขึ้นเรง +$15 ปิด $1,210 หลังทรัมป์เซ็นคําสั่งแบน 7 ชาตาหรับ ภาค ความขัดแย้งเพิ่มขึ้น
- 6 Feb ทองคําปรับขึ้น +$15 ปิด $1,235 หลังตลาดมีความกังวลว่าจะเกิด ความปั่นปวนอีกครั้ง เนื่องจากในเดือน มี.ค. จะมีการเลือกตั้ง ของเนเธอร์แลนด์และ อาจมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนเล็กๆของยุโรโซน
- 9 Feb ทองลงแรง - $13 ปิด $1,228 รับทรัมป์ส่งสัญญาณปฏิรูปภาษี
- 2 Mar ทองลง – $15 ปิด $1,234 หลังจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย สัปดาห์ลดลงต่ำสุดในรอบ 44 ปี
- 15 Mar ทองขึ้นเรง +$21 ปิด $1,220 รับฟดขึ้นดอกเบี้ยนักลงทุนคลาย ความกังวล
- 11 Apr ทองขึ้น +$19 ปิด $1,274 รับความตึงเครียดของซีเรีย
- 3 May ทรัมป์มีแนวโน้มเปิดการเจรจากับเกาหลีเหนือ ภาพความรุนเเรงลดลง ทองคําปรับลง -$18 $ ปิด1,238
- 17 May ความเสี่ยงของปัญหาหนี้อิตาลีดันราคาทองคําขึ้น +$24 ปิด $1,261 โดย S&P คาด GDP ปี 2017 ของอิตาลีจะชะลอตัว เพราะหนี้ที่สูงขึ้น
- 18 May จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงต่ำสุดในรอบ หลายปี กดราคาทองคําปิด $1,246 -$14
- 2 Jun สหรัฐฯประกาศตัวเลขการจ้างงารนอกภาคการเกษตรตะ 138,000 ราย ลดลง 36,000 ราย ราคาทองคําดีด +$14 ปิด $1,279
- 6 Jun วุฒิสภาสหรัฐฯเริ่มสอบสวนในกรณีที่ทรัมป์กดดัน อดีต ผู้อํานวยการ FBI ให้ยุติการสืบสวนประเด็นรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ทองดีด +$15 ปิด $1,294
- 3 Jul ทรัมป์เริ่มยกเลิกนโยบายกีดกันทางการค้ากับประเทศคู่ค้าต่างๆ เละเริ่ม เจรจาการค้ากับเยอรมนี อิตาลี เละจีน เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มดีขึ้น ทองลง – $22 ปิด $1,219
- 28 Aug กองทุน SPDR ซื้อทอง 9.16 ต้น และเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธลอย ข้ามเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่น ทองขึ้น +$19 ปิด $1,310
- 7 Sep นายสเตนลีย์ ฟิสเชอร์ ซึ่งเป็นรองประธานธนาคารกลางสหรัฐ ประกาศลาออก เเละนางเจเนต เยลเลน จะหมดวาระในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2561 อาจ ไม่ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งต่อในสมัยหน้า เพราะทรัมป์มีแนวโน้มว่าจะเสนอชื่อนายเกรี่ โคห์น คาดจะเข้ามาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯอีกครั้ง ทองดีด +$15 ปิด $1,349
- 11 Sep เกาหลีเหนือไม่ได้ทดสอบขีปนาวุธเพิ่มในวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้นัก ลงทุนคลายความกังวลเม็ดเงินไหนออกจาก Safe Haven อย่างพันธบัตรสหรัฐฯ รวมถึงทองคํา เข้าตลาดหุ้น ทองคําลง $19 ปิด $1,327
ทุกท่านอาจจะสังเกตเห็นได้ว่า ประเด็นที่ทำให้ ราคาทองคําปรับตัวเปลี่ยนแปลงเกิน 1% นั้น หากเยกเป็นหัวข้อใหญ่ๆเเล้ว ส่วนใหญ่จะมีเพียง 2 ปัจจัยเท่านั้นได้แก่
1. ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ส่งผลให้ค่าเงินสหรัฐฯ หรือ Dollar Index เปลี่ยนแปลง
โดยตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่างๆ นั้นเปรียบเสมือนมาตราวัตการ เจริญเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงทิศทางด้านเศรษฐกิจของ โลก โดยตัวเลขที่ส่งผลส่วนใหญ่นั้นจะเป็นตัวเลขที่ประกาศออกดีที่สุดในแต่ละช่วง หรือรอบเกณฑ์การวัดต่างๆ เนื่องจาก เป็นการแสดงให้เห็นว่า ทิศทางของ สถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯนั้นๆ มีการเปลี่ยนแนวโน้ม ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวตามได้ ซึ่งตัวเลขที่มักส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์เปลี่ยนแปลงไปส่วน ใหญ่แล้วจะเป็นตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ซึ่งจะประกาศออกมาทุกๆ เดือนว่า ในแต่ละเดือนนั้นการจ้างงานของสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงเท่าใด ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขหนึ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ใช้ในการประกอบการตัดสินใจใน การปรับนโยบายทางการเงิน และจะส่งผลถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเราจะ สามารถใช้ปัจจัยในข้อนี้ในการทํากําไรทองคําได้จากกาประกาศตัวเลขต่างๆ ของสหรัฐฯได้นั้นเอง
2. ความไม่แน่นอนทางการเมืองรวมถึงความตึงเครียดระหว่างประเทศ
ปัจจัยในข้อนี้ ส่วนใหญ่นั้นจะส่งผลให้ราคาทองคําปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจาก หากเกิดความไม่แน่นอนใดๆ แล้วนักลงทุนส่วนใหญ่จะเคลื่อนย้ายเงินทุน เข้าหา ทองคํา เนื่องจากทองคําถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) นั้นเอง ถึงเม้ว่าในทางปฏิบัติแล้ว การที่เราจะรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้เมื่อใด เป็นไปได้ยาก แต่เราก็สามารถใช้ปัญหาเก่าๆที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้เละรอการปะทุมา เป็นแนวทางในการเก็งกําไรทิศทางราคาทองคําได้อย่างเช่น ปัญหาความตึงเครียด ในคาบสมุทรเกาหลี ที่เกาหลีเหนือมักทดสอบขีปนาวุธต่างๆ และสหรัฐฯ ก็มักจะ เรียกประชุม UNSC บ่อยครั้ง เพื่อตอบโต้การกระทำดังกล่าวในทางสันติวิธี
ซึ่ง 2 ปัจจัยข้างต้นที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่เกิดขึ้นไปแล้วในอดีต และ ก็มีโอกาสเกิดขึ้นอีกครั้งในอนาคตแน่นอน อยู่ที่ว่าจะออกมาในรูปแบบใด ฉะนั้นแล้ว หากเราศึกษาพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาทองคําในอดีตด้วยแล้วนั้น เราก็ จะสามารถใช้ปัจจัยต่างๆ ที่กําลังจะเข้ามาในอนาคต เป็นปัจจัยประกอบการพิจารณา การตัดสินใจลงทุนหรือเก็งกําไรทองคําได้นั้นเอง
เขียนโดย คุณณรงค์เดช จันทรไพศาล
ดูรายละเอียดสินค้า Gold Online Futures เพิ่มเติมได้ที่
ดูรายละเอียดสินค้า Gold Futures เพิ่มเติมได้ที่
ดูรายละเอียดสินค้า Gold-D เพิ่มเติมได้ที่